bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันศุกร์ที่ ๒๙ มิ.ย.๖๑ : พลเอก เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ได้เดินทางไปเยือนจีน

พลเอก เจมส์ แมตทิส (James Mattis) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ (รมว.กห.สหรัฐฯ) ได้เดินทางไปเยือนจีน ตามคำเชิญของพลเอกเว่ย เฟิงเหอ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีกลาโหมของจีน (รมว.กห.จีน) ระหว่างวันที่ ๒๖ - ๒๘ มิ.ย.๖๑ โดยได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และผู้นำทางทหารของจีน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. เมื่อวันที่ ๒๗ มิ.ย.๖๑ ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง ได้พบและหารือกับพลเอกเจมส์ แมตทิส รมว.กห.สหรัฐฯ ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์โลกและความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ
        ๑.๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวถึง
                ๑.๑.๑ โลกกำลังพัฒนาไปเป็นแบบหลายขั้ว(multi-polarization) และเศรษฐกิจพัฒนาเป็นแบบโลกาภิวัฒน์ ทำให้ประเทศต่างๆ พึ่งพาอาศัยกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น ประชาชนจีนจะสร้างสรรค์ประเทศให้เป็นประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยและมีความเข้มแข็ง โดยยืนหยัดเดินบนหนทางการพัฒนาที่สันติ ไม่ใช่หนทางที่มุ่งขยายอิทธิพลของประเทศตน หรือหนทางลัทธิเมืองขึ้น และไม่มุ่งให้เกิดความวุ่นวายใดๆ ในโลก
                ๑.๑.๒ ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ เป็นความสัมพันธ์แบบทวิภาคีที่สำคัญยิ่งของโลก ประวัติศาสตร์และข้อเท็จจริงในช่วงกว่า ๔๐ ปี หลังจากจีน-สหรัฐฯ สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา พิสูจน์ให้เห็นว่าการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ได้ดี จะสร้างความผาสุกมาสู่ประชาชนทั้งสองประเทศและประชาชนประเทศต่างๆ เป็นผลดีต่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของโลกและของภูมิภาคต่างๆ จีนและสหรัฐฯ มีผลประโยชน์ร่วมกันในขอบเขตกว้างขวาง ทั้งสองฝ่ายมีจุดร่วมมากกว่าจุดต่าง จีนและสหรัฐฯ ควรปฏิบัติตามหลักการที่เคารพซึ่งกันและกัน ร่วมมือกัน และได้รับชัยชนะร่วมกัน เพื่อกระตุ้นและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ในขณะที่มองเห็นซึ่งผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่าย ก็ไม่อาจหลบเลี่ยงความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ระหว่างกัน โดยเฉพาะในปัญหาที่เกี่ยวพันถึงอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน ซึ่งจีนมีท่าทีที่ชัดเจนในการปกป้องดินแดนที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ในขณะที่จีนก็ไม่ปรารถนาในสิ่งที่เป็นของประเทศอื่น
                ๑.๑.๓ ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพจีนกับกองทัพสหรัฐฯ เป็นส่วนประกอบสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ปีหลังๆ นี้ ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศได้รักษาแนวโน้มการพัฒนาที่ดี การส่งเสริมการไปมาหาสู่กันในระดับต่างๆ ของกองทัพทั้งสองประเทศจะเป็นผลดีต่อการขจัดความไม่ไว้วางใจกัน ป้องกันความเข้าใจผิด และการตัดสินใจผิด ตลอดจนป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่นอกเหนือการคาดคิด หวังว่ากองทัพจีนและสหรัฐฯ จะส่งเสริมการติดต่อสื่อสารกัน เพิ่มพูนความไว้วางใจกัน พัฒนาความร่วมมือให้ลงลึก ควบคุมและบริหารความเสี่ยง ผลักดันให้ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศเป็นเครื่องมือในการช่วยรักษาความมั่นคงของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ
        ๑.๒ พลเอกเจมส์ แมตทิส กล่าวว่า สหรัฐฯ ให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพสหรัฐฯกับกองทัพจีนด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพสหรัฐฯกับจีนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ สหรัฐฯ ยินดีถือความเข้าใจร่วมกันของผู้นำทั้งสองประเทศเป็นเครื่องชี้นำ ในการส่งเสริมการติดต่อสื่อสารกันทางยุทธศาสตร์ ขยายความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กัน ควบคุมและบริหารความขัดแย้งและความเสี่ยง หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเป็นปฏิปักษ์กัน เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศ มีความสร้างสรรค์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

๒. ในวันเดียวกัน ๒๗ มิ.ย.๖๑ พลเอกเว่ย เฟิงเหอ มนตรีแห่งชาติ และ รมว.กห.จีน กับพลเอกเจมส์ แมตทิส รมว.กห.สหรัฐฯ ได้พบปะเจรจาหารือกันในประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคง
        ๒.๑ พลเอกเว่ย เฟิงเหอ กล่าวว่า จีนยืนหยัดหนทางการพัฒนาที่สันติภาพ กองทัพจีนจะพิทักษ์อธิปไตย ความปลอดภัย และผลประโยชน์การพัฒนาของประเทศชาติอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ จีนและสหรัฐฯ มีแต่ยืนหยัดหลักนโยบายที่ไม่ปะทะกัน ไม่เป็นปฏิปักษ์กัน เคารพซึ่งกันและกัน ร่วมมือกันและได้รับชัยชนะร่วมกัน จึงจะสามารถบรรลุซึ่งการพัฒนาร่วมกันได้ กองทัพทั้งจีนและสหรัฐฯ มีแต่ต้องปฏิบัติตามความเข้าใจร่วมกันของผู้นำทั้งสองประเทศให้ดี เพิ่มพูนความไว้วางใจ ส่งเสริมความร่วมมือ บริหารและควบคุมความเสี่ยงต่างๆ เพื่อให้กองทัพของทั้งสองประเทศกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาความมั่นคงของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอย่างแท้จริง นอกจากนี้ พลเอกเว่ย เฟิงเหอ ยังได้แสดงจุดยืนและความห่วงใยของจีนที่มีต่อปัญหาไต้หวัน ปัญหาทะเลจีนใต้ และปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี
        ๒.๒ พลเอกเจมส์ แมตทิส กล่าวว่า การพัฒนาของจีนเป็นผลดีต่อทั้งสหรัฐฯ และโลก สหรัฐฯ กับจีนควรอยู่อย่างปรองดองกัน สหรัฐฯ ให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพสหรัฐฯ กับกองทัพจีน ยินดีร่วมมือกับจีนเพื่อปรับปรุงกลไกการติดต่อระหว่างทั้งสองฝ่ายให้ดีขึ้น กระตุ้นให้การหารือกันเปิดกว้างยิ่งขึ้น ควบคุมและบริหารความเสี่ยง เชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯกับจีนสองประเทศที่ยิ่งใหญ่นี้ ย่อมจะกระตุ้นสันติภาพและการพัฒนาของโลก

บทสรุป

ความเคลื่อนไหวของ รมว.กห.สหรัฐฯ ที่ได้ไปเยือนจีนในระหว่างวันที่ ๒๖ - ๒๘ มิ.ย.๖๑ และได้พบเจรจากับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง รวมทั้งมนตรีแห่งรัฐและ รมว.กห.จีน นั้น ในภาพรวมต่างมีท่าทีไปในเชิงบวกโดยเห็นว่า ทั้งจีนและสหรัฐฯ ควรปฏิบัติตามหลักการที่เคารพซึ่งกันและกัน มีความร่วมมือกัน เพื่อให้ได้รับชัยชนะร่วมกัน และโดยเฉพาะการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทหารระหว่างกัน จะนำไปสู่ความมั่นคง ซึ่งสอดคล้องกับผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่ายและประชาคมโลก ในขณะที่จีนได้แสดงจุดยืนและท่าทีที่ชัดเจนต่อกรณีปัญหาที่เกี่ยวพันกับอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน โดยเฉพาะกรณีของไต้หวันและทะเลจีนใต้

ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

https://www.reuters.com/article/us-china-usa-defense/mattis-becomes-first-us-defense-chief-to-visit-china-under-trump-idUSKBN1JM0Z1

http://thai.cri.cn/247/2018/06/25/227s268341.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/06/27/227s268465.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/06/27/227s268450.htm

https://asia.nikkei.com/Politics/International-Relations/US-defense-secretary-to-visit-China-for-talks-on-North-Korea