bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันอังคารที่ ๑๐ ธ.ค.๖๒ ท่าทีความเคลื่อนไหวด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีนต่อเมียนมาล่าสุด

๑. เมื่อวันที่ ๗ ธ.ค.๖๒ นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน เข้าพบกับนายอู วิน มินต์ (Win Myint) ประธานาธิบดีเมียนมา ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา
        ๑.๑ นายหวัง อี้กล่าวว่าจีนและเมียนมาเป็นประเทศเพื่อนบ้าน สองประเทศริเริ่มและปฏิบัติตามหลักการ ๕ ประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ สร้างแบบฉบับแห่งความเสมอภาค และอำนวยประโยชน์แก่กันระหว่างประเทศ ปีหน้าครบรอบ ๗๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต จึงเป็นปีที่สำคัญยิ่ง จีนยินดีที่จะร่วมมือกับเมียนมา สรุปประสบการณ์ความร่วมมือระหว่างสองประเทศที่เป็นผลสำเร็จ จัดวางแผนการพัฒนาในอนาคต เตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง ส่งเสริมการติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองฝ่าย ขับเคลื่อนความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีน-เมียนมา พัฒนาสู่ยุคใหม่
        ๑.๒ นายอู วิน มินต์ กล่าวว่า ความเป็นพี่น้องระหว่างเมียนมา-จีน สืบทอดกันมาแต่ครั้งอดีต เมียนมาขอขอบคุณจีนให้การสนับสนุนในการพิทักษ์อำนาจอธิปไตย ศักดิ์ศรีและการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมเมียนมา มาโดยตลอด และเมียนมาหวังว่าจะถือโอกาสการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศในปีหน้า เร่งสร้างสรรค์โครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ส่งเสริมการสร้างสรรค์ระเบียงเศรษฐกิจรอบด้าน ขยายความร่วมมือในขอบเขตเศรษฐกิจ การค้า การศึกษา สาธารณสุข เป็นต้น ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น

๒. ในวันเดียวกัน (วันที่ ๗ ธ.ค.๖๒) นางอองซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐของเมียนมา ได้พบกับหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน โดยทั้งสองประเทศให้คำมั่นว่าจะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ รองอธิบดีกรมข่าวสารของเมียนมา ได้เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ ๘ ธ.ค.๖๒ ว่า นางซูจีขอบคุณจีนที่ให้การสนับสนุนและปกป้องอธิปไตยของเมียนมา รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของเมียนมา และคัดค้านการแทรกแซงโดยต่างชาติ โดยเฉพาะจากกระแสข่าวกรณีที่ประเทศแกมเบีย ประเทศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของทวีปแอฟริกา ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ได้ยื่นฟ้องเมียนมาต่อศาลโลกเมื่อเดือน พ.ย.๖๒ โดยกล่าวหาเมียนมาว่าละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แห่งองค์การสหประชาชาติ จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมโรฮีนจาระหว่างการปราบปรามอย่างนองเลือดเมื่อปี ๒๐๑๗ (พ.ศ.๒๕๖๐) ภายหลังกองทัพเมียนมานำการปราบปรามในรัฐยะไข่ โดยมีชาวโรฮีนจามากกว่า ๗๓๐,๐๐๐ คน อพยพหนีข้ามแดนเข้าไปยังประเทศบังกลาเทศ โดยศาลโลกที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์จะนัดไต่สวนคดีนี้ในระหว่างวันที่ ๑๐ – ๑๒ ธ.ค.๖๒

๓. ข้อสังเกตเกี่ยวกับท่าทีของจีนที่มีต่อเมียนมา
        ๓.๑ จีนมุ่งสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในเมียนมาอย่างชัดเจน โดยเสนอให้ทุกฝ่ายยุติข้อพิพาทด้วยการเจรจา ซึ่งคณะกรรมการสันติภาพเมียนมากับกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยในหลายพื้นที่ได้จัดการเจรจาสันติภาพและออกแถลงการณ์ร่วม ส่วนกองทัพป้องกันประเทศเมียนมาก็ยืดระยะเวลาหยุดยิงในพื้นที่ทางภาคเหนือของเมียนมาอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลต่อการคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่ทางภาคเหนือของเมียนมา
        ๓.๒ เมื่อช่วงเดือน พ.ย.๖๒ รัฐบาลจีน ได้มอบเงินกองทุนช่วยเหลือจำนวน ๑ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อศูนย์สันติภาพและความปรองดองแห่งชาติเมียนมา (NRPC) คณะกรรมการสันติภาพเมียนมา และคณะกรรมการติดตามการหยุดยิงเมียนมา (JMC) เพื่อใช้ในการสนับสนุนกระบวนการสันติภาพของเมียนมาต่อไป
        ๓.๓ เมื่อวันที่ ๙ พ.ย.๖๒ ที่โรงแรมแชงกรีล่า ในกรุงย่างกุ้ง มีการจัดการประชุมแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยีและการศึกษาระหว่างมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ของจีนและเมียนมา ซึ่งมีการลงนามใน MOU เกี่ยวกับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจการค้า การเกษตร และมนุษยศาสตร์ พร้อมๆ กับความคืบหน้าข้อเสนอ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” กับ “จุดเริ่มต้นเศรษฐกิจจีนเมียนมา” ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่างมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) และเมียนมาจะมีส่วนช่วยในการเติบโตของเศรษฐกิจเมียนมา ในการพัฒนาและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนเมียนมา

บทสรุป
จีนได้แสดงความชื่นชมต่อความก้าวหน้าในการจัดการเจรจาสันติภาพในเมียนมา ระหว่างคณะกรรมการสันติภาพเมียนมากับกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ การรักษาสันติภาพในพื้นที่ชายแดนจีน-เมียนมาได้สอดคล้องกับประโยชน์ร่วมกันของสองประเทศรวมถึงประชาชน โดยจีนหวังว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องของเมียนมาจะรักษาแนวโน้มการเจรจาสันติภาพต่อไป เพื่อรักษาการหยุดยิงในพื้นที่ทางภาคเหนือของเมียนมา อันจะทำให้สามารถลดผลกระทบต่อปัญหาตามแนวชายแดนระหว่างจีน-เมียนมา ซึ่งจีนจะแสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในเรื่องนี้ต่อไป

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล


ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://www.fmprc.gov.cn/mfa_eng/zxxx_662805/t1722512.shtml

http://thai.cri.cn/20191208/cb0649ee-f39f-fc7e-a03a-51c3f24c436e.html

http://thai.cri.cn/20191110/f2beeb47-36f3-79aa-f94c-1d08f1c45a92.html

http://thai.cri.cn/20190903/8f4afa21-9d8c-96d0-82a2-a44e95b8c1dd.html

http://thai.cri.cn/20191028/9ea01b87-8714-b193-bfb5-e05a5acfb8a0.html

http://thai.cri.cn/20191110/e68d4692-c5cf-ee8e-2a3a-b1496a9554ad.html

https://www.thaipost.net/main/detail/52043

https://www.fmprc.gov.cn/mfa_eng/zxxx_662805/t1722519.shtml

https://www.fmprc.gov.cn/mfa_eng/wjdt_665385/wsrc_665395/t1721888.shtml