bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันอังคารที่ ๑๒ มิ.ย.๖๑ : บทบาทของจีนต่อความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือในการเจรจาหารือกับผู้นำสหรัฐฯ

บทบาทของจีนต่อความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือในการเจรจาหารือระหว่างนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ประเทศสิงคโปร์ มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. เมื่อวันที่ ๑๐ มิ.ย.๖๑ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ได้เดินทางถึงสนามบินชางงีของสิงคโปร์ ด้วยสายการบินแอร์ไชน่าของจีน โดยเที่ยวบินดังกล่าวแรกเริ่มนั้นใช้รหัสเที่ยวบิน CA122 เปียงยาง-ปักกิ่ง แต่หลังจากนั้นได้เปลี่ยนรหัสเที่ยวบินเป็น CA61 เส้นทางเปียงยาง-สิงคโปร์ และผู้นำเกาหลีเหนือมีกำหนดการเข้าพบนายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ก่อนเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับผู้นำสหรัฐฯ ในวันที่ ๑๒ มิ.ย.๖๑

๒. บทบาทและจุดยืนของจีน ในการพบปะเจรจาหารือระหว่างประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน กับ นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ที่ได้เดินทางไปเยือนจีนอย่างไม่เป็นทางการถึง ๒ ครั้ง ในระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๗ มี.ค.๖๑ ณ กรุงปักกิ่ง และวันที่ ๘ พ.ค.๖๑ ณ เมืองต้าเหลียน ทางตอนเหนือของจีน ได้แก่
        ๒.๑ เป้าหมาย จีนยืนยันที่ต้องการจะเห็นการปลอดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงการรักษาสันติภาพและความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งการแก้ปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลีควรจะมาจากการเจรจาและการหารือกัน
        ๒.๒ ข้อเสนอ ๔ ประการของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จากการหารือในระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๗ มี.ค.๖๑
                ๒.๒.๑ การไปมาหาสู่กันระหว่างผู้นำระดับสูง มีบทบาทสำคัญด้านการกำหนดนโยบายและส่งเสริมความสัมพันธ์มาโดยตลอด ในรูปแบบต่างๆ เช่น การพบปะ หรือเดินทางไปมาหาสู่ การจัดส่งทูตพิเศษ และส่งสารให้แก่กัน เป็นต้น
                ๒.๒.๒ ดำเนินการติดต่อเชิงยุทธศาสตร์ตามประเพณีที่เคยปฏิบัติสืบต่อกันมา ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนและพรรคแรงงานเกาหลีเหนือมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับปัญหาสำคัญบ่อยครั้งมาโดยตลอด ซึ่งต้องขยายบทบาทการติดต่อระหว่างพรรคของทั้งสองประเทศ เพิ่มการติดต่อและความเชื่อถือระหว่างกัน
                ๒.๒.๓ ส่งเสริมการพัฒนาตามกระแสของยุคสมัย เน้นสันติภาพ การพัฒนา ความร่วมมือ และชัยชนะร่วมกัน สร้างความผาสุกกับประชาชนทั้งสองประเทศอย่างต่อเนื่อง ขยายบทบาทในการส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาของส่วนภูมิภาค
                ๒.๒.๔ ส่งเสริมพื้นฐานในด้านมิตรภาพภาคประชาชนของจีน-เกาหลีเหนือ ซึ่งทั้งสองฝ่ายควรเพิ่มการไปมาหาสู่กันในภาคเอกชนด้วยรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนในคนหนุ่มสาว สืบทอดและพัฒนาประเพณีฉันท์มิตรอันดีงามระหว่างสองประเทศ
        ๒.๓ ท่าทีของผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือต่อบทบาทของจีน
                ๒.๓.๑ นายคิม จองอึน ได้ตอบรับข้อเสนอของนายสี จิ้นผิง ๔ ประการดังกล่าว โดยกล่าวถึงมิตรภาพที่ผู้นำรุ่นเก่าของเกาหลีเหนือและจีนร่วมกันสร้างขึ้นนั้น ไม่อาจเสื่อมลงตามกาลเวลา การสืบทอดและพัฒนามิตรภาพระหว่างสองประเทศภายใต้สถานการณ์ในโลกยุคใหม่นั้น เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ การเยือนจีนเป็นการเพิ่มการติดต่อทางยุทธศาสตร์ และส่งเสริมมิตรภาพดั้งเดิม และรักษาการติดต่อกันอย่างใกล้ชิดโดยผ่านการจัดส่งทูตพิเศษ และเขียนจดหมายด้วยลายมือ เป็นต้น
                ๒.๓.๒ ผู้นำเกาหลีเหนือได้เน้นจุดยืนว่า จะใช้มาตรการเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์อันตึงเครียด และเสนอที่จะจัดการเจรจาอย่างสันติ เพื่อบรรลุซึ่งเป้าหมายปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี โดยเกาหลีเหนือตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้เป็นความสัมพันธ์แบบความร่วมมืออย่างปรองดอง และยินดีที่จะจัดการเจรจาระหว่างผู้นำสองฝ่าย รวมถึงการจัดการเจรจากับสหรัฐฯ ถ้าเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ มีท่าทีที่ดีต่อความพยายามของเกาหลีเหนือ
                ๒.๔ ในการพบปะหารือครั้งที่สองที่เมืองต้าเหลียน เมื่อวันที่ ๘ พ.ค๖๑ นายคิม จองอึน ได้เน้นว่า เกาหลีเหนือยังคงมุ่งปลดอาวุธนิวเคลียร์ เพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องครอบครองอาวุธนี้หากอีกฝ่ายเลิกนโยบายวางตัวเป็นศัตรูและเลิกข่มขู่ด้านความมั่นคง ส่วนประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้สนับสนุนให้เกาหลีเหนือยึดมั่นกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และแก้ไขปัญหาต่างๆ ผ่านการเจรจา

บทสรุป

การพบปะหารือถึง ๒ ครั้ง ระหว่างผู้นำจีนกับผู้นำเกาหลีเหนือ ในเดือน มี.ค.๖๑ และ พ.ค.๖๑ นั้น จะเห็นได้ชัดเจนว่า จีนมีบทบาทที่สำคัญต่อความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะการผลักดันท่าทีของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ในการนำไปสู่การแก้ปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลี ด้วยการเจรจาหารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวันที่ ๒๗ เม.ย.๖๑ ที่หมู่บ้านปันมุนจอม ซึ่งเป็นชายแดนระหว่างสองเกาหลี และการประชุมสุดยอดกับผู้นำสหรัฐฯ ในวันที่ ๑๒ มิ.ย.๖๑ ที่สิงคโปร์ โดยมีแนวโน้มท่าทีจากผู้นำเกาหลีเหนือซึ่งจะแสดงความต้องการ ๓ ประการ ได้แก่ ความต้องการในหลักประกันด้านความมั่นคงเพื่อการอยู่รอดของเกาหลีเหนือ ความต้องการให้การยอมรับในการปฏิบัติต่อเกาหลีเหนืออย่างเท่าเทียมเช่นเดียวกับสหรัฐฯ, รัสเซีย, จีน และเกาหลีใต้ รวมทั้งความต้องการให้มีการยกเลิกการคว่ำบาตรที่มีต่อเกาหลีเหนือ เป็นต้น ส่วนผลการเจรจาหารือจะออกมาเป็นประการใดนั้น จะต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

https://www.washingtonpost.com/world/kim-and-trump-on-their-way-to-singapore-for-historic-summit/2018/06/10/4dc77794-6c6a-11e8-bbc5-dc9f3634fa0a_story.html?noredirect=on&utm_term=.a5521f4909e3

https://www.posttoday.com/world/554029

http://www.xinhuanet.com/english/2018-03/28/c_137070598.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/03/28/121s265720.htm

http://www.bbc.com/thai/international-43565124

https://www.bbc.com/thai/international-44424833