ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนายหวัง อี้ (王毅) มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ร่วมพิธีเปิด "สถานการณ์ระหว่างประเทศและการทูตของจีนในปี ๒๐๒๐(พ.ศ.๒๕๖๓)" (“2020年国际形势与中国外交”) เมื่อวันที่ ๑๑ ธ.ค.๖๓ ที่กรุงปักกิ่งและกล่าวปาฐกถาพิเศษ ซึ่งมีประเด็นสำคัญสรุปได้ดังนี้
๑. ความสัมพันธ์จีน – สหรัฐฯ ในปีนี้ประสบกับสถานการณ์ที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า ๔๐ ปีนับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงเวลาที่โลกต้องการความเป็นปึกแผ่นและความร่วมมือกันมากที่สุด แต่สหรัฐฯ กลับก้าวไปไกลกว่าเดิมบนเส้นทางของลัทธิฝ่ายเดียว ซึ่งกลายเป็นปัจจัยทำลายล้างต่อระบบระหว่างประเทศในปัจจุบัน โดยเฉพาะกองกำลังต่อต้านจีนในสหรัฐฯ ที่มีอคติทางการเมืองและดำเนินการสร้างข่าวลือเพื่อป้ายสีใส่ร้ายจีน รวมทั้งดำเนินมาตรการคว่ำบาตรที่ไม่มีเหตุผลและยังกระตุ้นให้เกิดการเผชิญหน้าทางอุดมการณ์ เพื่อพยายามผลักดันให้โลกเข้าสู่ก้นบึ้งของ "สงครามเย็นครั้งใหม่" (“新冷战”) อันจะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ เอง นอกจากนี้ ยังอันตรายต่อสันติภาพและเสถียรภาพของโลกอีกด้วย
๒. ความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างจีน - สหรัฐฯ นั้น มีมากเกินกว่าขอบเขตทวิภาคี และได้กลายเป็นการแข่งขันของทางเลือกระหว่างพหุภาคีและฝ่ายเดียว ดังนั้น สิ่งที่จีนได้ดำเนินการปกป้อง จึงไม่ได้เป็นเพียงแต่เป็นสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของจีนเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลประโยชน์ร่วมกันในระยะยาวของทุกประเทศ นอกจากนี้ สิ่งที่จีนดำรงรักษาอยู่ไม่ได้เป็นเพียงพื้นฐานทางการเมืองระหว่างจีน – สหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงบรรทัดฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ทุกฝ่ายควรยึดถือ
บทสรุป
นายหวัง อี้ ได้เน้นย้ำว่า แนวทางการปฏิบัติของจีน นอกจากจะเป็นความชอบธรรมของจีนในการดำเนินการตามข้อเรียกร้องที่ถูกต้องตามกฎหมายดังกล่าวนั้นแล้ว ยังจะเป็นการรักษาความเป็นธรรมและความยุติธรรมระหว่างประเทศอีกด้วย
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://m.weibo.cn/status/4580935778963526
