จีนศึกษา (วันอังคารที่ ๑๕ มี.ค.๖๕) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมสร้างกองทัพในยุคใหม่ของจีน โดยพันเอกอาวุโส อู๋ เชียน (吴谦大校 / Senior Colonel Wu Qian) โฆษกคณะผู้แทนกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนและกองกำลังตำรวจติดอาวุธในการประชุมของสภาประชาชนแห่งชาติครั้งที่ ๑๓ ครั้งที่ ๕ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ เมื่อวันที่ ๙ มี.ค.๖๕ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. พันเอกอาวุโส อู๋ เชียน ได้กล่าวถึงปาฐกถาสำคัญของนายสี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานประเทศหรือประธานาธิบดีแห่งรัฐ และประธานคณะกรรมาธิการการทหารกลางของจีน ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ ๑๓ ครั้งที่ ๕ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ ๗ มี.ค.๖๕ ที่ได้เน้นว่า การปกครองกองทัพตามกฎหมายเป็นหนทางพื้นฐานสำหรับพรรคในการสร้างกองทัพและปกครองกองทัพ และเป็นข้อกำหนดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการบรรลุเป้าหมายของพรรคในการเสริมกำลังกองทัพในยุคใหม่ จำเป็นต้องใช้ยุทธศาสตร์ในการปกครองกองทัพตามกฎหมาย ปรับปรุงระดับของหลักนิติธรรมในการป้องกันประเทศและการสร้างสรรค์ทางทหาร และให้หลักประกันทางกฎหมายที่เข้มแข็งในการผลักดันสาเหตุของการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกองทัพในการเสริมสร้างกำลังทหาร และเป็นการระดมพลในเชิงลึกเพื่อส่งเสริมการดำเนินการตามรูปแบบยุทธศาสตร์ของกองทัพที่เข้มแข็งในยุคใหม่อย่างเต็มรูปแบบ
๒. ในการเสริมสร้างกองทัพในยุคใหม่ของจีนนั้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ชี้ให้เห็นอย่างลึกซึ้งว่า ประเทศที่เข้มแข็งต้องมีกองทัพที่เข้มแข็ง และกองทัพที่เข้มแข็งสามารถนำไปสู่ความมั่นคงของชาติได้ รัฐบาลจีนยึดมั่นในนโยบายการพัฒนาร่วมกันในการสร้างการป้องกันประเทศและการสร้างเศรษฐกิจ และกำหนดขนาดของค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศอย่างมีเหตุผลตามความต้องการด้านการป้องกันประเทศและระดับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่สมเหตุสมผลและมั่นคงในการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศ ในขณะที่ยังคงรักษาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนและมีเสถียรภาพ รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาการป้องกันประเทศและความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน โดยในปี ๒๐๒๒ (พ.ศ.๒๕๖๕) งบประมาณด้านการป้องกันประเทศอยู่ที่ ๑,๔๗๖.๐๘๑ พันล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้น ๗.๑%
บทสรุป สำหรับการเสริมสร้างกองทัพในยุคใหม่ของจีน ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในด้านการป้องกันที่เพิ่มขึ้นตาม "แผนห้าปี ฉบับที่๑๔" (“十四五”) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้แก่ (๑) การดำเนินการปรับปรุงอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ทันสมัย (๒) การดำเนินการใช้ยุทธศาสตร์ในการเสริมความแข็งแกร่งทางทหารสำหรับยุคใหม่ในการยกระดับขีดความสามารถ โครงสร้างการพัฒนาและการบริหารจัดการบุคลากรทางทหาร (๓) การดำเนินการปฏิรูปการป้องกันประเทศและการทหารให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อการรองรับการปฏิรูปที่สำคัญของประเทศ (๔) การดำเนินการปรับให้เข้ากับระดับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ด้วยการปรับปรุงการปฏิบัติงาน การฝึกอบรม และสภาพความเป็นอยู่ของกองทัพ รวมทั้งปรับปรุงสวัสดิการของเจ้าหน้าที่และทหาร
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://mp.weixin.qq.com/s/Re31Il_JYm6FzZqZBbuA1g )