ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางของจีน รายงานว่า จีนและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกแล้ว โดยเอกสารข้อตกลงทั้งหมด ประกอบด้วย บทนำ ทรัพย์สินทางปัญญา การถ่ายโอนเทคโนโลยี อาหารและผลิตผลทางการเกษตร การบริการการเงิน อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและความโปร่งใส การขยายการค้า การประเมินทวิภาคีและการแก้ไขข้อพิพาท และมาตราสุดท้าย รวมทั้งหมด ๙ บท ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องต้องกันว่า สหรัฐฯ จะปฏิบัติตามคำมั่นที่จะยกเว้นการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนตามลำดับ เพื่อทำให้อัตราภาษีเปลี่ยนจากปรับเพิ่มขึ้นเป็นลดลง
๒. ข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ควบคุมและแก้ไขจุดต่างทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างมีประสิทธิผล ส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างกันพัฒนาอย่างมั่นคง ในสภาวะที่เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่จะชะลอตัว ข้อตกลงฉบับนี้ถือเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มความมั่นใจให้กับตลาดทั่วโลก สอดคล้องกับหลักการของตลาด ตลอดจนสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่การประกอบธุรกิจและการลงทุนที่เป็นปกติ ทั้งนี้ สองฝ่ายได้ตกลงกันว่า ในขั้นตอนต่อไป จีน-สหรัฐฯ จะเสร็จสิ้นการพิจารณากฎหมายและตรวจสอบการแปลโดยเร็ว พร้อมปรึกษาหารือว่าด้วยรายละเอียดการลงนามข้อตกลงอย่างเป็นทางการ
๓. ข้อสังเกต การที่จีนและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกดังกล่าว เป็นผลมาจากเมื่อเช้าวันที่ ๒๖ พ.ย.๖๒ ซึ่งนายหลิว เฮ่อ กรรมการกรมการเมืองคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน รองนายกรัฐมนตรีจีน หัวหน้าคณะหารือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโรเบิร์ต ไลค์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงปัญหาหลักที่ต่างสนใจ และได้รับความเห็นเป็นเอกฉันท์ในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้อง เห็นด้วยที่จะหารือในปัญหาที่ค้างจากการหารือข้อตกลงในงวดแรก โดยนายจง ซาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน นายอี้ กาง ผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน และนายนิ่ง จี๋เจ๋อ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนร่วมการประชุมทางโทรศัพท์ในครั้งนั้นด้วย
บทสรุป
ในขณะที่ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ กำลังกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามเย็นรอบใหม่นั้น ดร.เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้แสดงความห่วงใยเรื่องนี้ โดยได้แสดงความเห็นในระหว่างการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจใหม่ ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ ๒๑ พ.ย.๖๒ ว่า สหรัฐฯ และจีนต่างเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก การมีข้อขัดแย้งบ้างถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากนำความขัดแย้งระดับโลกทุกอย่างมาพัวพันกับความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ก็จะถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างมาก
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://news.cgtn.com/news/2019-12-15/Phase-one-deal-light-at-the-end-of-the-tunnel--Mr8PD1fCsE/index.html
http://thai.cri.cn/20191214/942dbcf9-fbfb-47b7-ec06-127d1c82cec8.html
http://thai.cri.cn/20191126/274665dc-7535-c5db-cea0-74f555ce3ca1.html
http://thai.cri.cn/20191122/fb859af9-1dbe-d2e5-51a2-86ccbc1daa48.html
https://www.china-briefing.com/news/the-us-china-trade-war-a-timeline/
https://www.channelnewsasia.com/news/asia/china-us-phase-one-trade-deal-agreement-tariffs-12183174