bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันอังคารที่ ๒๔ ก.ค.๖๑ : ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เยือนประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เซเนกัล รวันดา และแอฟริกาใต้

ความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ได้ออกเดินทางเยือนประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เซเนกัล รวันดา และแอฟริกาใต้ ในระหว่างวันที่ ๑๙ - ๒๔ ก.ค.๖๑ (เที่ยวกลับจะแวะเยือนประเทศโมริเชียสในวันที่ ๒๗ - ๒๘ ก.ค.๖๑ ด้วย) โดยสำหรับช่วงวันที่ ๒๐ - ๒๑ ก.ค.๖๑ ได้เยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเซเนกัล ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. สำหรับการเยือนประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
        ๑.๑ เมื่อวันที่ ๒๐ ก.ค.๖๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้พบปะกับ ชีคมุฮัมมัด บิน รอชิด อัลมักตูม รองประธานาธิบดีและรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ในทุกด้าน เร่งพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในระดับที่สูงขึ้น ในขอบเขตที่กว้างขึ้นและลึกขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันประกาศ แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างจีนกับ UAE รวมทั้งได้มีการลงนามในข้อตกลงและบันทึกความเข้าใจ (MOU) จำนวน ๑๓ ฉบับ
                  ๑.๑.๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นว่า ทั้งสองประเทศควรพัฒนาความสัมพันธ์อย่างจริงจัง ขยายความเชื่อมั่นทางการเมือง เคารพผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ส่งเสริมให้เลือกหนทางการพัฒนาที่เหมาะกับสภาพของประเทศ โดยจีนกับ UAE ต่างเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือตามโครงการความริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative : BRI) อยู่แล้ว ซึ่งจีนถือว่า UAE เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในจุดสำคัญของเส้นทาง และเห็นด้วยกับข้อเสนอของมกุฎราชกุมารโมฮัมหมัดที่ระบุว่าจะมีการฟื้นฟูเส้นทางสายไหม
                 ๑.๑.๒ ชีค มุฮัมมัด บิน รอชิด อัลมักตูม กล่าวชื่นชมรูปแบบการพัฒนาและผลงานอันโดดเด่นของจีน รวมทั้งนโยบายเปิดสู่ภายนอก โดย UAE ยินดีขยายความร่วมมือกับจีนด้านต่าง ๆ เพื่อพยายามเป็นหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือของจีน
        ๑.๒ เมื่อวันที่ ๒๐ ก.ค.๖๑ ช่วงค่ำ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เดินทางไปเยือนทำเนียบมกุฎราชกุมารแห่งอาบูดาบี ตามคำเชิญ โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและปัญหาที่สนใจร่วมกันท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นมิตร
                ๑.๒.๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นว่า มิตรภาพจีน - UAE มีพื้นฐานมั่นคงและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน เมื่อปี ๒๐๑๕ (พ.ศ.๒๕๕๘) มกุฎราชกุมารทรงเยือนประเทศจีน โดยทั้งสองฝ่ายร่วมกันวางแผนการพัฒนาความสัมพันธ์ เปิดบันทึกหน้าใหม่แห่งระหว่างสองประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือในทุกด้านให้ลงลึก ปูพื้นฐานเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในระยะยาว และผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาต่อกันด้วยดีและมั่นคงต่อไป
                ๑.๒.๒ มกุฎราชกุมารโมฮัมหมัด กล่าวถึงประสบการณ์การเยือนจีนในปี ๒๐๑๕ (พ.ศ.๒๕๕๘) และยินดีที่ได้ให้การต้อนรับการเยือนอันเป็นประวัติศาสตร์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในครั้งนี้ พร้อมกับเห็นด้วยกับแนวคิดการปกครองประเทศที่มองเห็นการณ์ไกลของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ตลอดจนมีเชื่อมั่นว่าจีนจะมีอนาคตที่ดีงาม และสร้างคุณูปการต่อสันติภาพโลกและความก้าวหน้าของมนุษยชาติ ทั้งนี้ UAE มีความยินดีที่จะเป็นหุ้นส่วนสำคัญที่สุดของจีนในภูมิภาคตะวันออกกลาง และจะร่วมกับจีนปฏิบัติตามความเห็นพ้องต้องกันที่ได้บรรลุข้อตกลง เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาต่อไป

๒. สำหรับการเดินทางเยือนประเทศเซเนกัล เมื่อวันที่ ๒๑ ก.ค.๖๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เจรจากับนายแม็กคีย์ ซัลล์ ประธานาธิบดีเซเนกัลที่กรุงดาการ์ เมืองหลวงของเซเนกัล โดยผู้นำทั้งสองประเทศได้ชื่นชมผลการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเซเนกัลในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ และมีความเห็นร่วมกันที่จะผลักดันให้ความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้รับผลในด้านต่างๆ เพื่อสร้างอนาคตของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเซเนกัลให้ดียิ่งขึ้น
         ๒.๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวชื่นชมประธานาธิบดีเซเนกัล ที่พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเซเนกัลจากแง่มุมยุทธศาสตร์ โดยตอบสนองโครงการความริเริ่ม " หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" หรือ BRI อย่างแข็งขัน และสนับสนุนความร่วมมือระหว่างจีนกับแอฟริกา ซึ่งทั้งสองฝ่ายควรกระชับการติดต่อกันในระดับสูง การไปมาหาสู่กันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สนับสนุนเกี่ยวกับผลประโยชน์สำคัญที่เกี่ยวพันและปัญหาที่ให้ความสำคัญ ส่งเสริมการเชื่อมโยงทางยุทธศาสตร์ของการพัฒนาและการติดต่อทางนโยบาย โดยจีนยินดีที่เซเนกัลเป็นประเทศแอฟริกาตะวันตก ประเทศแรก ที่ลงนามกับจีนในเอกสารความร่วมมือ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" หรือ BRI
         ๒.๒ นายแม็กคีย์ ซัลล์ กล่าวว่า จีนเคยสร้างคุณูปการสำคัญเพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติทางประวัติศาสตร์ จีนในทุกวันได้แสดงบทบาทสำคัญในกิจการระหว่างประเทศ เซเนกัลชื่นชมผลงานการพัฒนาของจีน ขอบคุณจีนที่ให้การสนับสนุนที่ล้ำค่าต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและโครงการฟื้นฟูของเซเนกัล ความสัมพันธ์ระหว่างเซเนกัลกับจีนที่ได้สร้างขึ้นบนพื้นฐานความสามัคคี ความไว้ใจและเคารพซึ่งกันและกัน อำนวยประโยชน์แก่กัน เป็นที่น่าพอใจ เซเนกัลปฏิบัติตามนโยบายจีนเดียว มุ่งที่จะกระชับความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ในทุกด้าน รวมทั้งยินดีส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนในด้านต่างๆ กับจีน เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ชลประทาน อุตสาหกรรม การแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้านเกษตร การท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการกีฬา เป็นต้น

บทสรุป

ความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในการเดินทางเยือนประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กับประเทศเซเนกัล ในระหว่างวันที่ ๒๐ - ๒๑ ก.ค.๖๑ ได้มุ่งเน้นการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือตามโครงการความร่วมมือ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI ซึ่งได้เน้นบทบาทของจีนในด้านเศรษฐกิจเป็นสำคัญ แต่ก็แฝงความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากในปี ค.ศ.๒๐๐๐ (พ.ศ.๒๕๔๓) จีนได้ริเริ่มจัดตั้ง China - Africa Cooperation Forum (CACF) ขึ้น เพื่อเป็นเวทีหลักในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างจีน-แอฟริกาอย่างรอบด้านทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม รวมทั้งในปี ค.ศ.๒๐๐๖ (พ.ศ.๒๕๔๙) จีนประกาศนโยบายที่มีต่อแอฟริกาอย่างเป็นทางการในเชิงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อประโยชน์ร่วมกัน และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดจีน-แอฟริกา เมื่อเดือน พ.ย.๔๙ โดยมีผู้นำระดับสูงของประเทศในแอฟริกาเข้าร่วมประชุมมากถึง ๔๘ ประเทศ จึงน่าเฝ้าดูความเคลื่อนไหวระหว่างจีนกับแอฟริกาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะหลังจากการเดินทางเยือนของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในครั้งนี้

ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

https://gulfnews.com/news/uae/government/xi-jinping-visit-uae-china-sign-13-strategic-agreements-1.2254452

http://thai.cri.cn/247/2018/07/21/64s269227.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/07/22/123s269257.htm 

http://thai.cri.cn/247/2018/07/22/121s269245.htm

http://www.xinhuanet.com/english/2018-07/22/c_137340148.htm