bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันอังคารที่ ๒๖ พ.ค.๖๓ นโยบายด้านการต่างประเทศและความสัมพันธ์ของจีนกับต่างประเทศ

จีนศึกษา วันอังคารที่ ๒๖ พ.ค.๖๓ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายด้านการต่างประเทศและความสัมพันธ์ของจีนกับต่างประเทศ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ตอบข้อซักถามจากสื่อมวลชนทั้งจีนและต่างชาติ (国务委员兼外交部长王毅回答中外记者提问  State Councilor and Foreign Minister Wang Yi answers questions from Chinese and foreign reporters)  ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ ๑๓ ครั้งที่ ๓ ณ มหาศาลาประชาชน (人民大会堂  Great Hall of the People) ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ ๒๔ พ.ค.๖๓ เวลา ๑๕.๐๐ น. เกี่ยวกับ “นโยบายด้านการต่างประเทศและความสัมพันธ์ของจีนกับต่างประเทศ” (中国外交政策和对外关系  China's foreign policy and foreign relations) รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นย้ำสาระสำคัญว่า
     ๑.๑ ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เป็นที่จับตามองทั่วโลก ขณะที่ปัจจุบัน สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ รุนแรงที่สุดในโลก แต่ละวันมีชาวอเมริกันเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งประชาชนจีนเห็นใจและเสียใจต่อการนี้อย่างมาก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนชาวอเมริกันจะสามารถก้าวผ่านการแพร่ระบาด และฟื้นฟูการผลิตรวมถึงการดำรงชีวิตให้เป็นปกติได้ในเร็ววัน
     ๑.๒ ภายใต้เจตนารมณ์แห่งสันติ เคารพซึ่งกันและกัน และร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน จีนยินดีจับมือกับสหรัฐฯ สร้างความสัมพันธ์ทวิภาคี ความร่วมมือ และความมั่นคง ขณะเดียวกัน จีนจำเป็นต้องพิทักษ์อธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของประเทศ คุ้มครองสิทธิประโยชน์การพัฒนาที่พึงมีของตน ปกป้องฐานะและศักดิ์ศรีของประชาชนจีนที่ได้มาจากการเอาชนะความยากลำบาก

๒. ก่อนหน้านี้ นายจาง เย่สุย (张业遂  Zhang Yesui)  โฆษกการประชุมฯ สภาประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ ๑๓ ครั้งที่ ๓ (中国十三届全国人大三次会议大会发言人  Spokesperson for the Third Session of the 13th National People's Congress) ได้แถลงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ (中美关系  Sino-US relations) เมื่อวันที่ ๒๑ พ.ค.๖๓ ว่า
     ๒.๑ ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญ  ประวัติศาสตร์ยืนยันอย่างเต็มที่แล้วว่า หากสองประเทศร่วมมือกันจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย การต่อสู้จะทำร้ายทั้งสองฝ่าย ดังนั้น ความร่วมมือจึงเป็นทางเลือกเดียวที่ถูกต้อง
     ๒.๒ สิ่งที่สำคัญ คือ ควรยืนหยัดหลักการไม่ขัดแย้ง ไม่เผชิญหน้า เคารพซึ่งกันและกัน ร่วมมือกันเพื่อความสำเร็จของทั้งสองฝ่าย หากสหรัฐฯ เคารพระบบสังคมและหนทางการพัฒนาของจีน จัดการเจรจากับจีน จะเป็นประโยชน์ต่อภาคส่วนต่าง ๆ ของสองประเทศ ตลอดจนความร่วมมือที่เป็นประโยชน์แก่กันเกี่ยวกับปัญหาทั่วโลก
     ๒.๓ ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ จะพัฒนาไปได้อย่างมั่นคง ต้องสอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานของประชาชนทั้งสองประเทศ อีกทั้งสอดคล้องกับความปรารถนาของประชาคมโลก

๓. ข้อสังเกต ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ มีความตึงเครียดมากขึ้น โดยจีนแสดงท่าทีไม่พอใจสหรัฐฯ ในประเด็นต่างๆ อาทิ
     ๓.๑ การที่นักการเมืองสหรัฐฯ กล่าวหาจีนกรณีการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ โดยปราศจากหลักฐานและไม่มีเหตุผล รวมทั้งการกล่าวหาจีนว่า กำลังเร่งเสริมสร้างที่ตั้งทางทหารเพิ่มมากขึ้นในบริเวณหมู่เกาะทะเลจีนใต้
     ๓.๒ การที่กระทรวงการต่างสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อ นางไช่ อิงเหวิน ผู้นำทางการไต้หวัน ที่ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง และเรียกผู้นำทางการไต้หวันว่า “ประธานาธิบดี” พร้อมประกาศ “ความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างสหรัฐฯ-ไต้หวัน” ซึ่งจีนเห็นว่าเป็นการฝ่าฝืนหลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วม ๓ ฉบับ ว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-สหรัฐฯ อย่างรุนแรง รวมทั้งเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน
    ๓.๓ การที่สหรัฐฯ ออกกฎใหม่ว่าด้วยการควบคุมการส่งออกที่เฉพาะเจาะจงต่อบริษัทหัวเหว่ยของจีน โดยอ้างความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจีนถือว่าเป็นการทำลายหลักการการตลาดและการแข่งขันอย่างยุติธรรม และไม่เคารพกฎเกณฑ์ขั้นพื้นฐานด้านการค้าระหว่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการคุกคามอย่างรุนแรงต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมทั่วโลก  
 
บทสรุป

นายหวัง อี้ ได้เน้นย้ำว่า จีนจะดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างเป็นอิสระเสมอ ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จีนจะยืนหยัดเพื่อการพัฒนาและความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในการรักษาสันติภาพของโลก เนื่องจากนโยบายต่างประเทศของจีนมีรากฐานมาจากอารยธรรม ๕,๐๐๐ ปี ตั้งแต่สมัยโบราณ ประเทศจีนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นประเทศที่ให้การดูแลและไม่เคยรังแกผู้อื่น ดังนั้น การต่างประเทศของจีนในอนาคตขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับทุกประเทศเพื่อสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ ซึ่งการตัดสินใจเรื่องกิจการโลกควรทำผ่านการปรึกษาหารือไม่ใช่เพราะหนึ่งหรือสองประเทศเท่านั้น จึงเป็นเหตุผลที่จีนสนับสนุนให้โลกที่มีขั้วหลายขั้วอำนาจ อันสอดคล้องกับทิศทางความก้าวหน้าของมนุษย์และความทะเยอทะยานร่วมกันของประเทศส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะถึงขั้นตอนใดของการพัฒนา จีนก็จะไม่แสวงหาอำนาจ และหวังว่าทุกประเทศจะตระหนักถึงการเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ที่ต้องให้การสนับสนุนและความร่วมมือซึ่งกันและกันมากขึ้น เพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับทุกคน

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

http://www.xinhuanet.com/politics/2020lh/2020-05/24/c_139083738.htm

https://www.fmprc.gov.cn/mfa_eng/zxxx_662805/t1782262.shtml

https://www.chinanews.com/gn/2020/05-24/9193515.shtml

http://world.people.com.cn/n1/2020/0524/c1002-31721485.html

http://www.gov.cn/zhuanti/2020qglhzb/live/202000524c852369.html

http://www.xinhuanet.com/english/2020-05/24/c_139083244.htm

http://thai.cri.cn/20200524/88e541ca-478f-b16c-c1a9-9ebff38cd3a9.html

http://thai.cri.cn/20200522/87d638b7-2f31-ded8-9b44-72991955d377.html

https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3085536/if-us-seeks-contain-china-country-will-firmly-defend-its

http://www.chinanews.com/gn/shipin/2020/05-21/news857025.shtml