ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมเพื่อรำลึกครบรอบ ๗๐ ปีภารกิจอาสาสมัครของประชาชนจีนในการต่อต้านการรุกรานของสหรัฐฯและช่วยเหลือเกาหลี (纪念中国人民志愿军抗美援朝出国作战70周年) โดยจัดขึ้นที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ ๒๓ ต.ค.๖๓ มีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง เข้าร่วมการประชุมและกล่าวสุนทรพจน์ที่สำคัญ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ปี ๑๙๕๐ (พ.ศ.๒๔๙๓) สงครามกลางเมืองเกาหลีได้อุบัติขึ้น จากยุทธศาสตร์ระดับโลกและแนวความคิดสงครามเย็นของรัฐบาลสหรัฐฯ (朝鲜内战爆发。美国政府从其全球战略和冷战思维出发。) ซึ่งได้ตัดสินใจที่จะแทรกแซงสงครามกลางเมืองเกาหลีโดยส่งกองเรือที่เจ็ดไปบุกช่องแคบไต้หวัน (作出武装干涉朝鲜内战的决定,并派遣第七舰队侵入台湾海峡。) นอกจากนี้ ในช่วงต้นเดือนตุลาคมของปีเดียวกันนั้น กองทัพสหรัฐฯ ได้ก้าวข้ามเส้นขนานที่ ๓๘ โดยไม่สนใจคำเตือนซ้ำ ๆ ของรัฐบาลจีน อีกทั้งได้บุกตรงไปยังพรมแดนระหว่างจีน-เกาหลีเหนือ โดยใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดเมืองและตำบลพื้นที่บริเวณชายแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนหลายครั้ง สร้างความสูญเสียอย่างร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจีนตลอดจนความมั่นคงของประเทศจีน ทำให้เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๙๓ กองทัพอาสาสมัครประชาชนจีน (中国人民志愿军) ได้เข้าสู่สมรภูมิเกาหลีภายใต้การนำของผู้บัญชาการ เผิง เต๋อหวย (彭德怀 / Peng Dehuai) ตามคำร้องขอของเกาหลีเหนือ และร่วมทำสงครามช่วยเหลือเกาหลีเหนือต้านกองทัพสหรัฐฯ ที่กินเวลายืดเยื้อยาวนาน ๒ ปี ๙ เดือน จนได้มีการลงนามในข้อตกลงสงบศึกเมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๙๖
๒. เลขาธิการฯ สี จิ้นผิง ได้กล่าวว่า วันนี้ ประเทศจีนกำลังยืนอยู่ที่จุดตัดทางประวัติศาสตร์ของการบรรลุเป้าหมาย “ครบรอบ ๑๐๐ ปีสองวาระ" (“两个一百年”) ซึ่งชัยชนะในการสร้างสังคมที่เจริญรุ่งเรืองในระดับปานกลางในทุกด้าน และโอกาสในการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่อย่างครอบคลุมก็สดใส แม้ว่าหนทางข้างหน้าจะไม่ราบรื่น โดยต้องระลึกถึงประวัติศาสตร์อันยากลำบากและชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของสงครามเพื่อต่อต้านการรุกรานของสหรัฐฯ และช่วยเหลือเกาหลี กล้าที่จะต่อสู้ เก่งในการต่อสู้ ก้าวผ่านความยากลำบากและก้าวไปข้างหน้าด้วยความพากเพียร เป็นการก้าวไปข้างหน้าเพื่อก่อให้เกิดสังคมนิยมที่ยิ่งใหญ่ด้วยลักษณะของจีนในยุคใหม่ กล่าวคือ
๒.๑ โดยคำนึงถึงชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และการก้าวไปสู่สาเหตุที่ยิ่งใหญ่ ต้องรักษาความเป็นผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและสร้างพรรคให้แข็งแกร่งขึ้น
๒.๒ โดยคำนึงถึงชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และการก้าวไปสู่สาเหตุที่ยิ่งใหญ่ ต้องยืนยันที่จะให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางทำทุกอย่างเพื่อประชาชนและพึ่งพาประชาชนในทุกสิ่ง
๒.๓ โดยคำนึงถึงชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และการก้าวไปสู่สาเหตุที่ยิ่งใหญ่ ต้องยืนหยัดในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่องและเสริมสร้างความเข้มแข็งของประเทศที่ครอบคลุมของจีนอย่างต่อเนื่อง ตลอด ๗๐ ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนจีนใช้เวลาหลายทศวรรษในการก้าวข้ามผ่านกระบวนการพัฒนาที่ประเทศที่พัฒนาแล้วได้ข้ามผ่านมาหลายร้อยปี ก่อให้เกิดปาฏิหาริย์การพัฒนาที่ดึงดูดความสนใจไปทั่วโลก ในปัจจุบันประเทศจีนกำลังเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ของการพัฒนาและเผชิญกับโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ตราบใดที่เราประสานงานการส่งเสริมรูปแบบโดยรวม "ห้าในหนึ่งเดียว" (“五位一体”) ประสานงานการส่งเสริมรูปแบบยุทธศาสตร์ "ครอบคลุมทั้งสี่ด้าน" (“四个全面”) ดำเนินการตามแนวคิดการพัฒนาใหม่อย่างไม่หยุดยั้งและสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่ จะสามารถบรรลุคุณภาพที่สูงขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยุติธรรมขึ้น ยั่งยืนและปลอดภัยยิ่งขึ้น
๒.๔ โดยคำนึงถึงชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และการก้าวไปข้างหน้าของสาเหตุที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งต้องเร่งสร้างความทันสมัยของการป้องกันประเทศและกองทัพและสร้างกองทัพของประชาชนให้เป็นกองทัพระดับโลก หากไม่มีกองทัพที่แข็งแกร่งก็จะไม่มีมาตุภูมิที่แข็งแกร่ง
๒.๕ โดยคำนึงถึงชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และการก้าวไปสู่สาเหตุที่ยิ่งใหญ่ ต้องรักษาสันติภาพและความยุติธรรมของโลกและส่งเสริมการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ
๓. เลขาธิการฯ สี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า ต้องเร่งสร้างความทันสมัยของการป้องกันประเทศและกองทัพ โดยสร้างกองทัพของประชาชนให้เป็นกองทัพระดับโลก หากไม่มีกองทัพที่แข็งแกร่งก็จะไม่มีมาตุภูมิที่แข็งแกร่ง เพื่อรักษาและพัฒนาสังคมนิยมด้วยลักษณะของจีน ซึ่งต้องประสานการพัฒนาและความมั่นคงเสริมสร้างประเทศและเสริมสร้างความเข้มแข็งทางทหาร จำเป็นต้องใช้แนวความคิดของพรรคในการเสริมสร้างกองทัพในยุคใหม่ ดำเนินนโยบายยุทธศาสตร์ทางทหารในยุคใหม่รักษาความเป็นผู้นำที่แท้จริงของพรรคเหนือกองทัพประชาชน ยืนกรานในการสร้างกองทัพการเมือง การปฏิรูปเพื่อเสริมสร้างกองทัพด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการปกครองกองทัพตามกฎหมาย โดยจะปรับปรุงความสามารถเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมในการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์ในการพัฒนาของประเทศ และบรรลุภารกิจของกองทัพประชาชนในยุคใหม่ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อการฟื้นฟูประเทศจีนครั้งยิ่งใหญ่
บทสรุป
ในช่วงท้ายของสุนทรพจน์ดังกล่าวได้เน้นว่า โลกเป็นโลกของผู้คนในทุกประเทศ ความยากลำบากและความท้าทายที่โลกเผชิญต้องการให้ผู้คนจากทุกประเทศร่วมมือกันและร่วมมือกันเพื่อรับมือกับการพัฒนาอย่างสันติและความร่วมมือแบบ win-win โลกปัจจุบันลัทธิฝ่ายเดียวในการปกป้องและผลประโยชน์ส่วนตนอย่างสุดโต่งนั้น ไม่สามารถทำได้โดยสิ้นเชิง วิธีการปิดล้อมและการกดดันใดๆ นั้น ไม่สามารถทำได้โดยสิ้นเชิง พฤติกรรมใดๆ ที่มีส่วนในการเป็นเจ้าโลกนั้น ไม่เพียงแต่ใช้ไม่ได้แต่ยังถึงทางตันในที่สุด ดังนั้น จีนซึ่งได้เน้นการดำเนินนโยบายป้องกันประเทศและกองทัพจีนเป็นกองกำลังที่แข็งขันในการรักษาสันติภาพของโลกมาโดยตลอด รวมทั้งจะไม่แสวงหาความเป็นเจ้าโลกและต่อต้านลัทธิอำนาจนิยม โดยจีนจะไม่นั่งดูความเสียหายต่ออธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์ในการพัฒนาของประเทศจีน ตลอดจนจะไม่ยอมให้ใครหรือกองกำลังใดเข้ามารุกรานและแบ่งแยกดินแดนอย่างแน่นอน
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์