bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันอังคารที่ ๒๗ ส.ค.๖๒ บทบาทของจีนกับองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก

มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. เมื่อวันที่ ๒๓ ส.ค.๖๒ องค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ได้จัดการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความมั่นคงทางอาหารครั้งที่ ๕ ที่เมืองปัวต์โต วาราส (Puerto Varas) ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศชิลี โดยที่ประชุมได้ออกปฏิญญาระบุว่า ควรสร้างระบบอาหารที่หลอมรวม ยั่งยืน และมีระบบอัจฉริยะมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ เนื่องจากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงทางอาหารอย่างมาก จากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ และภัยธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ความหลากหลายทางชีวภาพได้ลดลง และโรคพืชกำลังคุกคามภาคการผลิตธัญญาหารและเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ควรพัฒนาพื้นที่ชนบท โดยการปรับโครงสร้างพื้นฐานและภาคบริการในพื้นที่ชนบทให้ดีขึ้น และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้สูงขึ้น

๒. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) เป็นกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๑๙๘๙ (พ.ศ.๒๕๓๒) โดยมีจุดประสงค์ มุ่งเน้นความเจริญเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืนของภูมิภาค และผลักดันให้การเจรจาการค้าหลายฝ่าย รอบอุรุกวัย ประสบผลสำเร็จ ขณะเดียวกัน เอเปกก็ต้องการถ่วงดุลอำนาจทางเศรษฐกิจของกลุ่มเศรษฐกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มสหภาพยุโรป ปัจจุบัน เอเปกมีสมาชิกทั้งสิ้น ๒๑ เขตเศรษฐกิจ (๑๙ ประเทศ ๒ เขตเศรษฐกิจ) ประกอบด้วยประเทศมหาอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ สหรัฐฯ รัสเซีย จีน และญี่ปุ่น รวมทั้งสมาชิกอาเซียน และประเทศในอเมริกาเหนือและใต้ โดยมีประชากรรวมกันมากกว่า ๒.๘ พันล้านคน มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รวมกันกว่าร้อยละ ๕๙ ของ GDP โลก และมีสัดส่วนการค้าระหว่างกันคิดเป็นร้อยละ ๔๘ ของมูลค่าการค้าโลก

๓. ท่าทีและบทบาทของจีนในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก
        ๓.๑ เมื่อวันที่ ๑๘ พ.ค.๖๒ การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก ครั้งที่ ๒๕ ปิดฉากลงที่วินา เดล มา (Viña del Mar) โดยออกแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมย้ำรักษาระบบการค้าพหุภาคี และระบุว่า สมาชิกเอเปก เห็นชอบที่องค์การการค้าโลกจะอุทิศกำลังต่อการค้า และจะใช้ปฏิบัติการจำเป็นเพื่อปรับระบบการทำงานขององค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งจีนสนับสนุนต่อแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว
        ๓.๒ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปกอย่างไม่เป็นทางการครั้งที่ ๒๖ ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๒๑ พ.ย.๖๑ ณ กรุงพอร์ตมอร์สบี รัฐเอกราชปาปัวนิวกินี โดยนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการเดินทางของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในครั้งนี้ ว่า
                ๓.๒.๑ ผู้นำจีนได้หารือกับบรรดาประเทศสมาชิกเอเปกเกี่ยวกับลู่ทางการรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางเศรษฐกิจของภูมิภาค และหารือกับบรรดาผู้นำประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกี่ยวกับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ รวมทั้งหารือกับผู้นำบรรดาประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก เกี่ยวกับพิมพ์เขียวการพัฒนาที่ยั่งยืน
                ๓.๒.๒ จีนได้ริเริ่มการสร้างจิตสำนึกชุมนุมที่มีอนาคตร่วมกัน โดยการดำเนินความร่วมมือแบบหุ้นส่วนให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการผลักดันการสร้างสรรค์ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” รวมทั้งความมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดระบอบพหุภาคี เพื่อให้มีความเข้าใจที่กว้างขวาง อันจะเพิ่มพูนพลังขับเคลื่อนให้มากยิ่งขึ้นต่อการบรรลุการพัฒนา และการมีความก้าวหน้าร่วมกัน
                ๓.๒.๓ จีนมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดหลักการที่ได้รับชัยชนะร่วมกัน โดยการร่วมกันหารือ ร่วมกันสร้างสรรค์ และร่วมกันแบ่งปัน ภายใต้ระบอบพหุภาคี โดยดำเนินการดังต่อไปนี้ ได้แก่

                         (๑) ยืนหยัดแนวคิดการเปิดกว้างและครอบคลุม ในการชี้นำความร่วมมือแห่งเอเชียและทั่วโลก

                         (๒) ส่งเสริมเชิดชูมิตรภาพดั้งเดิมกับประเทศเพื่อนบ้าน

                         (๓) ปฏิบัติตามแนวคิดที่มีความจริงใจ เป็นกันเองและซื่อสัตย์

                         (๔) ดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศต่อไป เพื่อร่วมกันแบ่งปันโอกาสที่ได้มาจากการพัฒนาของจีน

บทสรุป
การที่จีนได้แสดงท่าทีและบทบาทในเอเปก ด้วยการยืนหยัดหลักการที่จะสร้างความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เพื่อได้รับชัยชนะร่วมกัน จากการร่วมกันปรึกษาหารือ ร่วมกันสร้างสรรค์ และร่วมกันแบ่งปัน ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของจีนเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศมากขึ้น ในการเป็นประเทศใหญ่ที่มีความสร้างสรรค์ รวมทั้งมีความรับผิดชอบ และให้ความสำคัญในเรื่องของธรรมาภิบาล แม้จะอยู่ท่ามกลางความท้าทายภายใต้ภูมิหลังระหว่างประเทศที่นับวันจะยิ่งมีความสลับซับซ้อน โดยเฉพาะจากการกีดกันทางการค้า จากลัทธิเอกภาพนิยม และจากการเมืองที่มีอำนาจเหนือกว่า ซึ่งมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ การที่รัฐบาลจีนยึดถือแนวคิดการต่างประเทศของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่จะชี้นำและยืนหยัดบนหนทางการพัฒนาอย่างสันติ โดยยืนหยัดยุทธศาสตร์เปิดประเทศที่จะอำนวยประโยชน์แก่กันและกัน เพื่อที่จะให้ได้รับชัยชนะร่วมกันนั้น จะเป็นการสร้างคุณูปการอย่างยิ่งต่อการผลักดันสันติภาพและความก้าวหน้าของมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกัน

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล


ข้อมูลจาก
https://foreignaffairs.co.nz/2019/08/24/mil-osi-economics-apec-ministers-pledge-to-strengthen-food-security-puerto-varas-chile-23-august-2019-ap/

https://www.apec.org/

http://thai.cri.cn/20190825/1ad032fd-9190-154d-1311-b5a65fb7a051.html

http://thai.cri.cn/20190519/aa263c81-f492-3711-5eb5-705fe69724d0.html

http://thai.cri.cn/20181121/98d83e64-faa4-b55c-f086-ab7c74a9d695.html

http://www.mfa.go.th/main/th/news3/6886/83503%9B.html

http://www.maff.go.jp/j/press/kokusai/kikou/attach/pdf/190825_2-3.pdf