การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่ของจีน มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวแสดงความยินดีในงาน China Data International Expo 2018 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๖ พ.ค.๖๑ 26 ที่เมืองกุ้ยหยาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลกุ้ยโจว ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีผู้ร่วมงานกว่า ๔๐,๐๐๐ คนจากเกือบ ๓๐ ประเทศ ความว่า
๑.๑ การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศยุคใหม่ เช่น อินเทอร์เน็ต, ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีอิทธิพลอย่างมากและส่งผลต่อเนื่องกับการพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจ การปกครอง การจัดการทางสังคมและชีวิตของประชาชนในทุกประเทศ
๑.๒ ชุมชนระหว่างประเทศจำเป็นต้องเพิ่มการสื่อสารและความร่วมมือในการคว้าโอกาสในภาคข้อมูลขนาดใหญ่ ส่งเสริมการพัฒนาสุขภาพ และจัดการกับความท้าทายต่างๆ เช่น ความปลอดภัยของข้อมูล และการกำกับดูแลระบบไซเบอร์สเปซ ด้วยวิสัยทัศน์ของการพัฒนานวัตกรรม การประสานงาน การพัฒนาสีเขียว และการเปิดกว้างเทคโนโลยีสำหรับทุกคน จีนกำลังดำเนินการตามยุทธศาสตร์ข้อมูลขนาดใหญ่แห่งชาติ ที่มุ่งเน้นการสร้างจุดแข็งของประเทศในโลกไซเบอร์ และการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สังคมอัจฉริยะ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เศรษฐกิจของประเทศจากการเจริญเติบโตความเร็วสูง เพื่อการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่เก็บรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่ไว้ เพื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่นๆ ในการวิเคราะห์ข้อมูล สร้างคุณค่าใหม่ออกมาจากข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งมากกว่าขีดจำกัดของการจัดการข้อมูลแบบเดิมหรือแบบเดี่ยวๆ
๒. การนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการตรวจจับและรู้จำใบหน้า (Facial Recognition)
๒.๑ Ant Financial บริษัทในเครือบริษัทอาลีบาบาจับมือกับ Zhang Zhongjing Pharmacy Co. Ltd. บริษัทยาชื่อดัง เปิดตัว “ร้านยาแห่งอนาคต” ซึ่งเป็นตู้ขายยาแบบบริการตัวเองตลอด ๒๔ ชั่วโมงขนาด ๒๐๐ ตารางเมตรในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ถูกพัฒนาขึ้นโดยผสมผสานเทคโนโลยีการตรวจจับและรู้จำใบหน้า ทำให้ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านการสแกนใบหน้าได้ นอกจากนี้ ยังสามารถรับบริการปรึกษาสุขภาพทางไกลและจองห้องพักผู้ป่วยได้ด้วย รวมทั้งสามารถซื้อยาที่อยู่ภายใต้การควบคุมบางชนิดได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้บัตรประชาชน เพียงแค่สแกนใบหน้าเพื่อระบุตัวตนเท่านั้น นอกจากนี้ ระบบการชำระเงินยังผูกกับบัตรประกันสังคมออนไลน์ของกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และความมั่นคงของสังคม และบัญชีอาลีเพย์ รวมถึงระบบ Sesame Credit ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น การเช่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้โดยไม่ต้องมีเงินมัดจำ เป็นต้น
๒.๒ เทคโนโลยีการตรวจจับและรู้จำใบหน้ายังสามารถนำมาใช้ประจำสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกและลดระยะเวลาในการตรวจบัตรโดยสารเข้าสู่สถานี และยังช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัยสถานที่
บทสรุป
ปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้อย่างแพร่หลาย ทั้งนี้เนื่องจากจีนเป็นเจ้าของเครือข่ายสัญญาณ 4G ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและยังคงมีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก ซึ่งจีนได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มสถานีฐาน 4G อีก ๔๕๐,๐๐๐ แห่งในปีนี้ เพื่อยกระดับสัญญาณให้ครอบคลุมอาคารบ้านเรือน ลิฟต์ พื้นที่ในร่ม ตลอดจนถนนหนทางต่างๆ ขณะที่สถาบันการเงินศึกษาฉงหยัง (Chongyang Institute for Financial Studies) ของมหาวิทยาลัยเหรินหมิน ได้ทำการสำรวจพบว่า ประชาชนในกรุงปักกิ่งมีความสบายใจในการจ่ายเงินโดยไร้เงินสดมากที่สุด โดยมากกว่าร้อยละ ๗๐ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ด้วยการมีเงินสดติดตัวเพียงอาทิตย์ละ ๑๐๐ หยวน หรือราว ๕๐๐ บาท ในขณะที่อีกร้อยละ ๘๔ ระบุว่า สามารถออกจากบ้านได้โดยไม่ต้องมีเงินสด ขอเพียงแค่พกโทรศัพท์มือถือไปเครื่องเดียวก็พอ
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://mgronline.com/china/detail/9610000052431
https://mgronline.com/china/detail/9610000052064
https://mgronline.com/china/detail/9610000051693
https://mgronline.com/china/detail/9610000051201