มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ในการต่อต้านการก่อการร้ายร่ วมกับมิตรประเทศ ดังกรณีเมื่อวันที่ ๒๗ ก.ค.๖๒ ที่กองทัพจีนกับกองทัพสิงคโปร์ ได้มีการฝึกซ้อมร่วมกันในหัวข้อ “ความร่วมมือ-๒๐๑๙” เป็นเวลา ๑๐ วัน โดยเน้นการฝึกการต่อต้านการก่ อการร้าย เช่น การทะลวงสิ่งกีดขวาง การปิดล้อมเตือนภัยและการค้นหา รวมทั้งการรักษาพยาบาล เป็นต้น ณ ค่ายจูล่ง (Jurong) ของกองพลที่ ๓ กองทัพบกสิงคโปร์ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของสิ งคโปร์ บริเวณใกล้กับช่องแคบสิงคโปร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดั บการแลกเปลี่ยนด้านยุทธศาสตร์ และความสามารถด้านการต่อสู้ รวมทั้งเพิ่มความเชื่อมั่นและส่ งเสริมมิตรภาพระหว่างกองทั พของสองประเทศ ซึ่งทั้งจีนและสิงคโปร์ ต่างได้จัดส่งทหารบกดีเด่ นในการต่อต้านการก่อการร้าย จำนวนฝ่ายละ ๑๒๐ นาย เข้าร่วมการฝึกซ้อมในครั้งนี้
๒. ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ ๑๘ มี.ค.๖๒ ทางการของจีนได้ออกรายงานสมุ ดปกขาวว่าด้วยเรื่อง “การปราบปรามการก่อการร้าย ต่อต้านลัทธิสุดโต่งทางศาสนา และสร้างหลักประกันสิทธิมนุ ษยชนในเขตปกครองซินเจียง” โดยในสมุดปกขาวดังกล่าว ได้นำเสนอถึงสถานการณ์ปัญหาลั ทธิสุดโต่ง การก่อการร้าย พร้อมทั้งมาตรการต่างๆ ที่มีประสิทธิ ภาพในการปราบปรามการก่อการร้ ายของจีน ให้สังคมนานาประเทศได้รับรู้ บนพื้นฐานความชอบธรรม และยึดแนวทางปฏิบัติตามหลั กการขององค์กรสหประชาชาติ ในการต่อสู้กับลัทธิก่อการร้ ายและปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้ นฐาน
บทสรุป
๑. ในการต่อต้านการก่อการร้ายร่
๒. ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ ๑๘ มี.ค.๖๒ ทางการของจีนได้ออกรายงานสมุ
บทสรุป
จีนเป็นประเทศหนึ่งที่ได้แสดงจุ ดยืนที่ชัดเจนในการต่อต้านการก่ อการร้าย ซึ่งเป็นศัตรูของมวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะการฝึกซ้อมเพื่อต่อต้ านการก่อการร้ายร่วมกับกองทัพมิ ตรประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฯลฯ และการออกรายงานสมุดปกขาวว่าด้ วยการต่อต้านการก่อการร้ายดั งกล่าวนั้น จึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงท่าที ของจีนในการต่อต้านการก่อการร้ ายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นการยืนยันว่าจีนเป็ นประเทศที่มีความรับผิดชอบ และพร้อมที่จะปกป้อง ตลอดจนให้การสนับสนุนและผลักดั นกิจกรรมด้านสิทธิมนุ ษยชนสากลภายใต้กรอบสหประชาชาติ เช่น การสร้างหลักประกันด้านสิทธิมนุ ษยชนให้กับพลเมืองในมณฑลซินเจี ยง เพื่อต่อต้านภัยคุกคามจากลัทธิ การก่อการร้ายและลัทธิสุดโต่ง โดยในระหว่างปี พ.ศ.๒๕๕๙ – ๒๕๖๑ ได้สร้างโอกาสการมีงานทำใหม่ ในเมืองและตำบลจำนวน ๑,๔๐๐,๘๐๐ อัตรา รวมทั้งสร้างโอกาสการมีงานทำเพิ่ มให้แก่แรงงานเกษตรที่มีจำนวนถึ ง ๘,๓๐๕,๐๐๐ อัตรา ตลอดจนการจัดการศึกษาภาคบังคับ ๙ ปี และการมีระบบประกันการรั กษาโรคให้กับประชาชนในพื้นที่ เป็นต้น
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจาก