bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันอังคารที่ ๓๐ ก.ค.๖๒ ท่าทีของจีนในการต่อต้านการก่อการร้าย

มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. ในการต่อต้านการก่อการร้ายร่วมกับมิตรประเทศ ดังกรณีเมื่อวันที่ ๒๗ ก.ค.๖๒ ที่กองทัพจีนกับกองทัพสิงคโปร์ได้มีการฝึกซ้อมร่วมกันในหัวข้อ “ความร่วมมือ-๒๐๑๙” เป็นเวลา ๑๐ วัน โดยเน้นการฝึกการต่อต้านการก่อการร้าย เช่น การทะลวงสิ่งกีดขวาง การปิดล้อมเตือนภัยและการค้นหา รวมทั้งการรักษาพยาบาล เป็นต้น ณ ค่ายจูล่ง (Jurong) ของกองพลที่ ๓ กองทัพบกสิงคโปร์ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของสิงคโปร์ บริเวณใกล้กับช่องแคบสิงคโปร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการแลกเปลี่ยนด้านยุทธศาสตร์และความสามารถด้านการต่อสู้ รวมทั้งเพิ่มความเชื่อมั่นและส่งเสริมมิตรภาพระหว่างกองทัพของสองประเทศ ซึ่งทั้งจีนและสิงคโปร์ ต่างได้จัดส่งทหารบกดีเด่นในการต่อต้านการก่อการร้าย จำนวนฝ่ายละ ๑๒๐ นาย เข้าร่วมการฝึกซ้อมในครั้งนี้

๒. ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ ๑๘ มี.ค.๖๒ ทางการของจีนได้ออกรายงานสมุดปกขาวว่าด้วยเรื่อง “การปราบปรามการก่อการร้าย ต่อต้านลัทธิสุดโต่งทางศาสนา และสร้างหลักประกันสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองซินเจียง” โดยในสมุดปกขาวดังกล่าว ได้นำเสนอถึงสถานการณ์ปัญหาลัทธิสุดโต่ง การก่อการร้าย พร้อมทั้งมาตรการต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพในการปราบปรามการก่อการร้ายของจีน ให้สังคมนานาประเทศได้รับรู้ บนพื้นฐานความชอบธรรม และยึดแนวทางปฏิบัติตามหลักการขององค์กรสหประชาชาติในการต่อสู้กับลัทธิก่อการร้ายและปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน 

บทสรุป
จีนเป็นประเทศหนึ่งที่ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งเป็นศัตรูของมวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะการฝึกซ้อมเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายร่วมกับกองทัพมิตรประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฯลฯ และการออกรายงานสมุดปกขาวว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายดังกล่าวนั้น จึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงท่าทีของจีนในการต่อต้านการก่อการร้ายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นการยืนยันว่าจีนเป็นประเทศที่มีความรับผิดชอบ และพร้อมที่จะปกป้อง ตลอดจนให้การสนับสนุนและผลักดันกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนสากลภายใต้กรอบสหประชาชาติ เช่น การสร้างหลักประกันด้านสิทธิมนุษยชนให้กับพลเมืองในมณฑลซินเจียง เพื่อต่อต้านภัยคุกคามจากลัทธิการก่อการร้ายและลัทธิสุดโต่ง โดยในระหว่างปี พ.ศ.๒๕๕๙ – ๒๕๖๑ ได้สร้างโอกาสการมีงานทำใหม่ในเมืองและตำบลจำนวน ๑,๔๐๐,๘๐๐ อัตรา รวมทั้งสร้างโอกาสการมีงานทำเพิ่มให้แก่แรงงานเกษตรที่มีจำนวนถึง ๘,๓๐๕,๐๐๐ อัตรา ตลอดจนการจัดการศึกษาภาคบังคับ ๙ ปี และการมีระบบประกันการรักษาโรคให้กับประชาชนในพื้นที่ เป็นต้น  

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจาก