ขอนำเสนอข้อคิดในมุมมองของจีนว่าด้วยการลดความยากจนและความร่วมมือใต้ – ใต้ (减贫与南南合作) จากสุนทรพจน์ของนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (国务委员兼外交部长 王毅) เมื่อวันที่ ๒๖ ก.ย.๖๓ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคปอดบวมครั้งใหม่ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัว ๕.๒% ในปีนี้ โดย ๗๐ - ๑๐๐ ล้านคน จะตกอยู่ในความยากจนเนื่องจากการแพร่ระบาด รายงานขององค์การสหประชาชาติชี้ให้เห็นว่าดัชนีการพัฒนามนุษย์จะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ ๓๐ ปี ตัวเลขที่น่าตกใจเหล่านี้ เตือนว่าไม่มีประเทศใดสามารถรอดพ้นจากการระบาดของโรคนี้ได้ ระบบการแพทย์และสุขภาพในประเทศกำลังพัฒนาอ่อนแอมีบุคลากรและวัสดุสำรองไม่เพียงพอและผลกระทบจากการแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น ประเทศที่พัฒนาแล้วตกอยู่ในห้วงแห่งการแพร่ระบาดและหล่มทางเศรษฐกิจและการลงทุนในความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศลดลงอย่างมีนัยสำคัญ การดำเนินการตามวาระเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนปี ๒๐๓๐ ยังมีข้อจำกัดและช่องว่างการพัฒนาระหว่างเหนือและใต้อาจกว้างขึ้นอีก
๒. ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างใดก็ตาม เจตจำนงของประเทศกำลังพัฒนาที่จะรวมตัวกันและร่วมมือกันจะไม่สั่นคลอน เพื่ออุดมการณ์และเป้าหมายร่วมกัน ที่ต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องบนเส้นทางแห่งการพัฒนา กล่าวคือ
๒.๑ ร่วมกันรักษาจุดยืนหลักของวาระปี ๒๐๓๐ (พ.ศ.๒๕๗๓) ซึ่งการพัฒนาเป็นรากฐานที่สำคัญของสันติภาพและข้อกำหนดเบื้องต้นเพื่อความอยู่รอดและศักดิ์ศรี การแพร่ระบาดได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าหากเราบรรลุผลลัพธ์ที่มั่นคงในการพัฒนาที่ยั่งยืน เราสามารถมีรากฐานทางวัตถุที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อตอบสนองต่อวิกฤต ในทางกลับกันหากการขาดดุลของการพัฒนายังคงมีอยู่เป็นเวลานานช่องว่างในทันทีจะเอาชนะได้ยากขึ้น ซึ่งวาระการประชุมปี ๒๐๓๐ เป็นเอกสารที่ชี้นำการพัฒนาและความร่วมมือของทุกประเทศและทั่วโลก ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันประชาคมระหว่างประเทศควรยึดถือแนวคิด "ลำดับความสำคัญของการพัฒนา" (“发展优先”) วางวาระปี ๒๐๓๐ ที่ครอบคลุมอย่างทั่วถึง และส่งเสริมประเด็นที่ยั่งยืน ๑๗ ประเด็นอย่างจริงจัง โดยดำเนินการตามเป้าหมายการพัฒนา ๑๖๙ เป้าหมาย โดยการสนับสนุนองค์การสหประชาชาติให้มีบทบาทในการประสานงานและประสานงานและส่งเสริมการสร้างหุ้นส่วนการพัฒนาระดับโลกรูปแบบใหม่ที่มีความเท่าเทียมสมดุลและเป็นธรรมมากขึ้น รวมทั้งตระหนักอย่างแท้จริงว่า "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" (“不让任何人掉队”) ทั้งนี้ การร่วมสร้างสรรค์ตามข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (“一带一路”) จะเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินการตามวาระปี ๒๐๓๐ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศกำลังพัฒนาจะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในโครงการ“ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และบรรลุการพัฒนาคุณภาพสูงในด้านการเชื่อมต่อ
๒.๒ ร่วมกันบรรลุเป้าหมายหลักในการขจัดความยากจนขั้นรุนแรง (共同实现消除极端贫困的首要目标。) ความยากจนเป็นข้อจำกัดต่อเสรีภาพและการพัฒนาของมนุษย์ รวมทั้งยังเป็นที่มาของความขัดแย้งในหลายประเทศและภูมิภาค การแพร่ระบาดของโรคทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยและการว่างงานระลอกใหม่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทาย ต้องยึดเอาการขจัดความยากจนเป็นเป้าหมายหลักอย่างมั่นคง และใช้การจัดตั้ง "พันธมิตรในการขจัดความยากจน" (“消除贫困联盟”) ของสหประชาชาติ เพื่อเป็นโอกาสในการส่งเสริมประชาคมระหว่างประเทศให้มุ่งเน้นความร่วมมือในการลดความยากจนและตรวจสอบให้แน่ใจว่าทรัพยากรเพื่อการพัฒนามุ่งไปที่การลดความยากจน การศึกษาสุขภาพและโครงสร้างพื้นฐาน การก่อสร้างและด้านอื่น ๆ ในการดำรงชีวิตของประชาชนมีแนวโน้มที่จะให้การสนับสนุนทางการเงินและทางเทคนิคที่จำเป็นสำหรับประเทศกำลังพัฒนา จำเป็นต้องขจัดการเลือกปฏิบัติและอคติในทุกรูปแบบ และสร้างเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับผู้หญิงซึ่งมีจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของคนยากจนในโลก โดยจำเป็นต้องเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การลดความยากจน ให้ข้อมูลอ้างอิงที่เป็นประโยชน์สำหรับการกำหนดนโยบายการลดความยากจนที่แม่นยำและมีประสิทธิผล รวมทั้งร่วมกันใช้กุญแจหลักของการพัฒนาเพื่อเปิดประตูสู่การขจัดความยากจน
๒.๓ ร่วมกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ต้องยึดมั่นในหลักการที่มุ่งเน้นชีวิตของผู้คน โดยมุ่งเน้นที่กองกำลังทั้งหมด การระดมทรัพยากรทั้งหมดและใช้มาตรการทั้งหมดเพื่อปกป้องชีวิตสุขภาพและความปลอดภัยของผู้คน ซึ่งจำเป็นต้องเสริมสร้างการป้องกันและควบคุมร่วมระหว่างประเทศ เร่งการวิจัยและพัฒนาวัคซีนการผลิต ตลอดขนการจำหน่ายและส่งเสริมการเข้าถึงวัคซีนและความสามารถในการจ่าย โดยต้องสนับสนุนองค์การอนามัยโลกให้มีบทบาทนำในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโลก รวมทั้งต่อต้านการตีตราและการติดฉลากไวรัส ซึ่งจำเป็นต้องประสานงานการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดและการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยสร้าง "ช่องทางที่สะดวก" (“便捷通道”) ในการแลกเปลี่ยนบุคลากร และ "ช่องทางสีเขียว" (“绿色通道”) ในการขนส่งสินค้า รักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานของโลกและส่งเสริมให้เศรษฐกิจโลกกลับมาเติบโตโดยเร็วที่สุด
๒.๔ ร่วมกันกระตุ้นพลังที่แข็งแกร่งของความร่วมมือใต้ - ใต้ในยุคใหม่ โดยการสร้างเอกภาพและการพึ่งพาตนเองในประเทศกำลังพัฒนาภายใต้สถานการณ์ใหม่ โดยต้องรักษาเจตนารมณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความช่วยเหลือซึ่งกันและกันต่อไปโดยอาศัยแพลตฟอร์มกลไกเช่นกลุ่ม ๗๗ และกลุ่ม BRICS เพื่อส่งเสริมความร่วมมือใต้ – ใต้ เพื่อให้การสนับสนุนใหม่สำหรับการเพิ่มขึ้นของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา บนพื้นฐานของความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในสาขาดั้งเดิมเช่นโครงสร้างพื้นฐานพลังงานและการเกษตรเราต้องแตะศักยภาพของความร่วมมือในสาขาใหม่ ๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลและ 5G และเร่งการเปลี่ยนแปลงและยกระดับโครงสร้างทางเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กับการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ควรร่วมกันหารือเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ในการจัดการกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล และร่วมกันแสวงหาการกำกับดูแลดิจิทัลทั่วโลก ซึ่งจีนเพิ่งเสนอ "Global Data Security Initiative" (“全球数据安全倡议”) โดยหวังว่าจะเป็นพิมพ์เขียวสำหรับการกำหนดกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศสำหรับการรักษาความปลอดภัยดิจิทัล
บทสรุป
นายหวัง อี้ เน้นย้ำว่า เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต จะมองเห็นความจริงในความทุกข์ยาก ซึ่งประเทศกำลังพัฒนาต้องรวมตัวกันในการต่อสู้กับจักรวรรดินิยมและลัทธิล่าอาณานิคม เพื่อให้ได้รับเอกราชและการปลดปล่อย ซึ่งยังคงต้องสำรวจเงื่อนไขของประเทศตนเอง โดยดำเนินการอย่างมั่นคงบนเส้นทางแห่งการพัฒนาของประเทศตน นอกจากนี้ ยังต้องเรียกร้องให้มีการจัดตั้งระเบียบระหว่างประเทศที่ยุติธรรมและสมเหตุสมผล ในกระบวนการพัฒนาของมนุษย์ที่งดงาม ซึ่งความร่วมมือใต้ – ใต้ จะมีบทบาทที่สำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะการร่วมกันสร้างประชาคมสาธารณสุข (打造人类卫生健康共同体。)
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://www.en84.com/9882.html