bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา (วันอังคารที่ ๗ ก.พ.๖๖) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับองค์การสหประชาชาติที่ได้เผยแพร่รายงาน "สถานการณ์และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปี ๒๐๒๓ (พ.ศ.๒๕๖๖)"

     จีนศึกษา (วันอังคารที่ ๗ ก.พ.๖๖) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับองค์การสหประชาชาติที่ได้เผยแพร่รายงาน "สถานการณ์และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปี ๒๐๒๓ (พ.ศ.๒๕๖๖)" เมื่อวันที่ ๒๕ ม.ค.๖๖ โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในปี ๒๐๒๓ (พ.ศ.๒๕๖๖) จะลดลงจากประมาณ ๓% ในปี ๒๐๒๒ (พ.ศ.๒๕๖๕) มาเป็น ๑.๙%

     ทั้งนี้ รายงานระบุว่าภายใต้อิทธิพลของการแพร่ระบาดของโควิด-19 วิกฤตการณ์ในยูเครน อัตราเงินเฟ้อสูงและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบอย่างหนักในปี ๒๐๒๒ (พ.ศ.๒๕๖๕) และเศรษฐกิจโลกจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อไปในปี ๒๐๒๓ (พ.ศ.๒๕๖๖) หากกระแสเศรษฐกิจมหภาคบางส่วนเริ่มจางหายไป การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น ๒.๗% ในปี ๒๐๒๔ (พ.ศ.๒๕๖๗)

     ตามรายงานพบว่า การชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศที่พัฒนาแล้วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศกำลังพัฒนาด้วย หลายประเทศมีความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี ๒๐๒๓ (พ.ศ.๒๕๖๖) โดยแนวโน้มการเติบโตที่อ่อนแอลงในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าอื่นๆ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในหลายๆ ด้าน

     ในรายงานคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนว่าจะดีขึ้นในปี ๒๐๒๓ (พ.ศ.๒๕๖๖) เนื่องจากรัฐบาลจีนปรับนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดให้เหมาะสมและใช้มาตรการทางเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวย การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะเร่งตัวขึ้นในปีนี้และคาดว่าจะสูงถึง ๔.๘%
โดยรายงานเชื่อว่า เพื่อจัดการกับวิกฤตโลกหลายครั้งและนำโลกกลับสู่เส้นทางเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติในปี ๒๐๓๐ (พ.ศ.๒๕๗๓) จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยประชาคมระหว่างประเทศจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามอย่างเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศกำลังพัฒนาและลดภาระหนี้

ประมวลโดย พลโท ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.news.cn/fortune/2023-01/26/c_1129312698.htm )