ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการกล่าวสุนทรพจน์ของนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนพิเศษประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในที่ประชุมสมัชชาพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการระบาดของโรคโควิด-๑๙ เมื่อวันที่ ๓ ธ.ค.๖๓ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ต้องควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอย่างแน่วแน่ ซึ่งมีความจำเป็นต้องให้การสนับสนุนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ รวมทั้งเสริมสร้างการเฝ้าระวังและการเตือนภัยล่วงหน้า การติดตามการตรวจจับการรักษาและและการแบ่งปันข้อมูล โดยส่งเสริมการป้องกันรวมทั้งควบคุมร่วมระหว่างประเทศและลดการแพร่ระบาดข้ามพรมแดน เป็นยุทธศาสตร์และลำดับความสำคัญในการต่อต้านการแพร่ระบาด ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่ควรเคารพและปกป้องทุกชีวิตโดยปฏิบัติต่อผู้ป่วยทุกคนด้วยความเอาใจใส่ ทั้งนี้ วัคซีนเป็นอาวุธที่ทรงพลังในการกำจัดโควิด-๑๙ โดยควรปฏิบัติตามคุณลักษณะของสินค้าสาธารณะทั่วโลก เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถเข้าถึงได้และสามารถแจกจ่ายได้ในประเทศกำลังพัฒนา
๒. ต้องประสานความก้าวหน้าของการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดรวมทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยต้องเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้กับโควิด-๑๙ ในระยะยาว นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากทั้งรัฐบาลและตลาดเพื่อส่งเสริมการจ้างงานและการดำรงชีวิตของประชาชน ตลอดจนเพิ่มความยืดหยุ่นในการพัฒนา ซึ่งจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากรูปแบบทางธุรกิจใหม่ๆ หลังจากการแพร่ระบาดของโรค เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเกิดใหม่อย่างจริงจังและส่งเสริม "การฟื้นตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" (“绿色复苏”) ของเศรษฐกิจ โดยจำเป็นที่จะต้องเสริมสร้างการประสานงานนโยบายเศรษฐกิจมหภาคระหว่างประเทศ ในการรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานของโลก
๓. ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จีนยึดมั่นในแนวคิดเรื่องชีวิตของคนเป็นอันดับแรก โดยนำมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดที่ครอบคลุมเข้มงวดอย่างทั่วถึงมากที่สุด และจัดตั้งกลไกการประสานงานระยะกลางและระยะยาว สำหรับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด รวมทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวการดำเนินการ ด้านมนุษยธรรมระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีนใหม่ ด้วยการดำเนินกิจกรรมแลกเปลี่ยนการต่อต้านการแพร่ระบาด “บนระบบคลาวด์" (“云上”) ที่ใหญ่ที่สุดและถือเป็นความรับผิดชอบของผู้จัดหาวัสดุป้องกันการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจีนจะให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือแก่ประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือต่อไป โดยกำลังเร่งความก้าวหน้าของการทดลองทางคลินิกระยะที่ ๓ ของวัคซีน หลังจากการวิจัยและพัฒนาเสร็จสิ้น และเมื่อนำไปใช้งานแล้วจะถูกนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะระดับโลก เพื่อมอบให้กับประเทศกำลังพัฒนาอย่างกระตือรือร้น และมีส่วนร่วมในการสร้างชุมชนด้านสุขภาพของมนุษย์
บทสรุป
ในการเอาชนะการแพร่ระบาดของโรค ทุกประเทศจำเป็นต้องร่วมมือกันและทำงานร่วมกัน ประเทศมหาอำนาจควรมีบทบาทที่เป็นแบบอย่างและยึดมั่นในแนวทางที่ถูกต้องของความร่วมมือในการต่อสู้กับโรคระบาด โดยต้องให้ความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นวาระสากล ในการปรับปรุงระบบการกำกับดูแลความปลอดภัยด้านสาธารณสุขและเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับเหตุฉุกเฉิน ซึ่งจำเป็นต้องเพิ่มการสนับสนุนและการลงทุนในองค์การอนามัยโลก เพื่อให้มีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำ
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
