bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา (วันอาทิตย์ที่ ๑๒ ก.พ.๖๖) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนายชาบา โคโรซี ประธานสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ ๗๗ ได้ไปเยือนประเทศจีนตามคำเชิญของนายฉิน กัง

     จีนศึกษา (วันอาทิตย์ที่ ๑๒ ก.พ.๖๖) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนายชาบา โคโรซี ประธานสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ ๗๗ ได้ไปเยือนประเทศจีนตามคำเชิญของนายฉิน กัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ระหว่างวันที่ ๑ - ๔ ก.พ.๖๖ และได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของจีนต่ออุดมการณ์ของสหประชาชาติว่า

     จีนให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันต่ออุดมการณ์ของสหประชาชาติมาโดยตลอดและมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การรักษาสันติภาพ และด้านอื่นๆ ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเป็นประเทศแรกที่ลงนามใน "กฎบัตรสหประชาชาติ" โดยจีนได้ปกป้องวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรมาโดยตลอดและยังคงรักษาบทบาทหลักของสหประชาชาติในกิจการระหว่างประเทศอยู่เสมอ สู่การพัฒนาระดับโลกและผู้ปกป้องระเบียบระหว่างประเทศ เมื่อรวมข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกันแล้วสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนและน่าประทับใจเกี่ยวกับการสนับสนุนของจีนต่ออุดมการณ์ของสหประชาชาติ กล่าวคือ

     ๑.​ เป็นกำลังสำคัญในการรักษาสันติภาพของโลก ในขณะที่ความขัดแย้งและความท้าทายด้านความมั่นคงต่าง ๆ ยังคงดำเนินอยู่ต่อไปในโลกปัจจุบัน ทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เสนอความคิดริเริ่มด้านความมั่นคงระดับโลกที่การประชุมฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าว เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๖๕ โดยเน้นย้ำว่ามนุษยชาติเป็นประชาคมแห่งความมั่นคงที่แบ่งแยกไม่ได้ สนับสนุนภูมิปัญญาจีนในการแสวงหาวิธีแก้ปัญหาของจีนต่อความท้าทายด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ และได้รับความร่วมมือระหว่างประเทศ รวมทั้งสหประชาชาติ เป็นที่ยอมรับของสังคมอย่างกว้างขวาง มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการตั้งถิ่นฐานทางการเมืองของประเด็นรอนที่สำคัญในภูมิภาค เช่น ปัญหานิวเคลียร์คาบสมุทรเกาหลี ปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน อัฟกานิสถาน เมียนมาร์ ปาเลสไตน์และอิสราเอล พยายามรักษาอำนาจและเอกภาพของคณะมนตรีความมั่นคง และสนับสนุนสหประชาชาติ ในการไกล่เกลี่ยตามอำนาจหน้าที่ มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกระบวนการควบคุมและปลดอาวุธระหว่างประเทศ และเข้าร่วม "สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์และสนธิสัญญาและกลไกควบคุมอาวุธระหว่างประเทศอื่น ๆ อีกหลายสิบฉบับ รวมถึงวิกฤตยูเครน โดยจีนตัดสินใจแสดงจุดยืนและนโยบายของตนตามข้อดีของเรื่องนั้น ๆ โดยยึดมั่นในจุดยืนที่เป็นกลางและยุติธรรม ส่งเสริมการเจรจาสันติภาพอย่างแข็งขัน ซึ่งจีนและโลกแบ่งปันความทุกข์ยากและความหายนะ รวมทั้งอัดฉีดพลังบวกสู่สันติภาพและเสถียรภาพของโลกและภูมิภาค

     ๒.​ เป็นแหล่งพลังของการพัฒนาระดับโลก ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เสนอความคิดริเริ่มการพัฒนาระดับโลกในการอภิปรายทั่วไป ณ การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ ๗๖ เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๖๔ ว่า ต้องร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาระดับโลกไปสู่ขั้นใหม่ของความสมดุล การประสานงาน และความเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งถือเป็นการเสนอความคิดริเริ่มการพัฒนาระดับโลกเป็นครั้งแรกโดย "ยึดหลักการพัฒนา" "ยึดคนเป็นศูนย์กลาง“ "ยึดหลักความเสมอภาคและไม่แบ่งแยก" "ยึดหลักนวัตกรรมขับเคลื่อน“ "ยึดหลักอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนของมนุษย์และธรรมชาติ“ "ยึดหลักปฏิบัติ" โดยข้อเสนอของจีนได้กระตุ้นการตอบสนองอย่างกระตือรือร้นจากทั่วโลก และการกระทำของจีนส่งเสริมการพัฒนาความก้าวหน้าของโลก ในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการเสนอโครงการตามข้อริเริ่ม “สายแถบและเส้นทาง” ร่วมกัน ก็กลายเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะระหว่างประเทศที่ได้รับความนิยมและแพลตฟอร์มความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งครอบคลุม ๒ ใน ๓ ของประเทศและ ๑ ใน ๓ ขององค์กรระหว่างประเทศในโลก

     ๓.​ เป็นการรวมพลังต้านโรคระบาด คำปราศรัยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการอภิปรายทั่วไปของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ ๗๕ เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๖๓ เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนจากทุกประเทศเฝ้าดูและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แสดงถึงความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น และความรักของมนุษยชาติในการเผชิญกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ ในเวลาที่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ซ้ำหลายครั้ง ได้ส่องสว่างในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด ซึ่งโรคระบาดจะพ่ายแพ้ต่อมนุษยชาติในที่สุด และชัยชนะจะเป็นของชาว โลก โดยจีนเป็นประเทศแรกที่สัญญาว่าจะทำให้วัคซีนโควิด-19 เป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะทั่วโลก เป็นรายแรกที่สนับสนุนการยกเว้นทรัพย์สินทางปัญญาด้าน การวิจัยและพัฒนาของวัคซีน และเป็นรายแรกที่ร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาในการผลิตวัคซีน ทำให้เกิดแรงผลักดันที่แข็งแกร่งในการเชื่อม "ช่องว่างในการสร้างภูมิคุ้มกัน" ทั่วโลก

     ๔.​ เป็นฝ่ายปฏิบัติของการพัฒนาสีเขียว โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวสุนทรพจน์ซ้ำหลายครั้งในโอกาสที่จีนเสนอให้สหประชาชาติสร้างโลกที่สะอาดและสวยงามรวมทั้งปกป้องบ้านที่สวยงามของโลกว่า "น้ำสีเขียวและภูเขาสีเขียวเป็นภูเขาทองและเงิน ซึ่งควรปฏิบัติตามแนวคิดเรื่องความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติตลอดจนลัทธิเต๋าเพื่อให้ความสำคัญต่อธรรมชาติและแสวงหาเส้นทางของการพัฒนาที่ยั่งยืน"

ประมวลโดย พลโท ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://finance.sina.com.cn/jjxw/2023-02-03/doc-imyekwyx3682076.shtml?cref=cj )