bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันอาทิตย์ที่ ๑๖ มิ.ย.๖๒ ไชน่า มีเดีย กรุ๊ป รายงานว่า น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย กล่าวชื่นชมจุดยืนของจีนในการยืนหยัดการค้าเสรีอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่

มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย ได้แสดงความเห็นว่า สหรัฐฯ ใช้มาตรการกีดกันการค้าและเอกภาคีนิยม ซึ่งไม่เพียงแต่เจาะจงต่อจีนเท่านั้น หากยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้ากับต่างประเทศของประเทศอื่น ๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย จีนและสหรัฐฯ ต่างเป็นสองประเทศใหญ่ เมื่อเกิดข้อขัดแย้งทางการค้า ย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศอื่น และสร้างความกังวลแก่ทั่วโลก เมื่อมีประเทศหนึ่งกดดันเศรษฐกิจอีกประเทศ ย่อมจะเกิดความขัดแย้งและการกีดกัน หากมองจากการณ์ไกล สงครามการค้าจะไม่มีผู้ชนะ อีกทั้งผลประโยชน์ของทุกฝ่ายล้วนได้รับผลกระทบ ทั้งนี้หวังว่า จะสามารถหาทางแก้ไขด้วยวิธีการหารือกัน

๒. ท่าทีดังกล่าวนี้ สอดรับกับท่าทีของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีไทยระบุไว้ในงานแลกเปลี่ยนความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าไทย-จีน (กว่างตง) เมื่อวันที่ ๑๑ มิ.ย.๖๒ โดยทางการมณฑลกว่างตงของจีน หอการค้าไทย-จีน และ THAI YOUNG CHINESE CHAMBER OF COMMERCE เป็นเจ้าภาพจัดงาน และมีผู้แทนวงการการเมืองและการค้าจากไทยจีนกว่า ๖๐๐ คนได้ร่วมงาน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีของไทยกล่าวเน้นว่า นโยบายกีดกันทางการค้าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างชัดเจน ทำให้เศรษฐกิจในเวลานี้มีแรงกดดันขาลงมากขึ้น ทุกประเทศเอเชียจึงควรสนับสนุนซึ่งกันและกัน มีเพียงความร่วมมือจึงจะสามารถทำให้เอเชียมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น

บทสรุป
แม้ว่าจะมีรายงานว่า การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีน เป็นผลที่เกิดขึ้นจากการจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ และบทบาทร่วมกันทางตลาด อีกทั้งเป็นผลกระทบจากการแข่งขันทางอุตสาหกรรม โครงสร้างเศรษฐกิจ นโยบายทางการค้า และสถานะการสำรองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ฯลฯ แต่สหรัฐฯ ยังคงแนวคิดกีดกันทางการค้าและการครองความเป็นใหญ่ต่อไป โดยจีนแสดงท่าทีพร้อมที่จะรับความกดดันจากสหรัฐฯ จึงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของสงครามการค้าต่อไป ในขณะที่มีรายงานข่าวเมื่อวันที่ ๑๔ มิ.ย.๖๒ ว่าประเทศไทยได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (Economic and Social Council: ECOSOC) วาระปี ค.ศ. ๒๐๒๐ - ๒๐๒๒ (พ.ศ.๒๕๖๓ - ๒๕๖๕) ในนามกลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิก ร่วมกับจีน เกาหลีใต้ และบังกลาเทศ ซึ่ง ECOSOC มีภารกิจหลักในการเสนอและทบทวนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมให้นานาประเทศร่วมบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจาก
http://thai.cri.cn/20190303/7953d995-258a-bfdf-4b35-4bb7a4e3e453.html 
http://thai.cri.cn/20190614/25df31ec-8b8a-726e-6568-beb37b53a4d2.html 
http://thai.cri.cn/20190613/6b46dce8-331e-6081-f3d5-b1f3263ea5fd.html  
http://thai.cri.cn/20190606/52f68db1-4593-438d-8a34-5a0b3c169817.html  
http://thai.cri.cn/20190603/e2806887-d825-2e87-4dcf-2200548f3c1e.html 
http://www.mfa.go.th/main/th/news3/6886/104784 
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/837926