จีนศึกษา วันอาทิตย์ที่ ๑๗ พ.ค.๖๓ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกั บประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ จีน เป็นประธานการประชุ มคณะกรรมการประจำกรมการเมื องคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิ สต์จีน เมื่อวันที่ ๑๔ พ.ค.๖๓ โดยได้เน้นย้ำประเด็นสำคั ญหลายประเด็น อาทิ การใช้มาตรการที่มีประสิทธิ ภาพในการป้องกันและควบคุ มการระบาดของโควิด-๑๙ การเสริมมาตรการป้องกันและควบคุ มการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในพื้ นที่และสถานที่สำคัญ การปฏิรูปโครงสร้างอุปทาน และการยกระดับของห่วงโซ่อุ ตสาหกรรม ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่สำคัญ กล่าวคือ
๑.๑ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด- ๑๙ ในต่างประเทศยังคงมีความรุ นแรงและสลับซับซ้อน ขณะที่ภารกิจในการป้องกันไม่ให้ เกิดการระบาดรอบ ๒ ภายในประเทศ ยังคงเป็นเรื่องใหญ่และยากลำบาก ดังนั้น จึงต้องใช้ความพยายามอย่างต่ อเนื่อง และประกันให้ทุกมาตรการในการป้ องกันและควบคุมการแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัสได้รับการปฏิ บัติอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ จะต้องไม่ยอมให้ความสำเร็ จในการป้องกันและควบคุมการแพร่ ระบาดที่ผ่านมานั้นสูญเปล่า ในขณะที่ยังต้องประกันการขจั ดความยากจน และการสร้างสังคมพอกินพอใช้ในทุ กด้านให้บรรลุเป้าหมาย
๑.๒ ต้องเสริมมาตรการป้องกั นและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้ อไวรัสในพื้นที่และสถานที่สำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ ระบาดรอบใหม่ โดยต้องใช้มาตรการป้องกั นและควบคุมที่ตอบโจทย์ในพื้นที่ ที่เกิดการแพร่ระบาดเมื่อเร็วๆ นี้ เช่น มณฑลเฮยหลงเจียง และมณฑลจี๋หลิน ส่วนมณฑลหูเป่ย และเมืองอู่ฮั่น ต้องเสริมสร้างและปรับปรุ งมาตรการป้องกันและควบคุ มการแพร่ระบาดในชุมชนให้สมบูรณ์ ยิ่งขึ้น สำหรับกรุงปักกิ่งต้องเสริ มมาตรการป้องกันและควบคุ มการแพร่ระบาด โดยเฉพาะในช่วงที่จัดการประชุ มสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจี นและสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติ จีน
๑.๓ ต้องเน้นการปฏิรูปโครงสร้างอุ ปทานในรายละเอียด โดยใช้ประโยชน์จากการที่จีนมี ตลาดใหญ่ และมีศักยภาพความต้ องการมหาศาลภายในประเทศ เพื่อสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่ ให้ตลาดในประเทศและต่างประเทศส่ งเสริมซึ่งกันและกัน รวมทั้งยังต้องพยายามสร้างพื้ นฐานอุตสาหกรรมใหม่ โดยยกระดับห่วงโซ่อุ ตสาหกรรมและเสริมนวัตกรรมด้านวิ ทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นอกจากนี้ ต้องพยายามผลักดันให้ร้านค้า ตลาด และธุรกิจบริการกลับมาประกอบกิ จการตามปกติ ตลอดจนต้องส่งเสริมความร่วมมื อระหว่างประเทศ เพื่อร่วมกันรักษาความปลอดภั ยและความมั่นคงของห่วงโซ่อุ ตสาหกรรมระหว่างประเทศ
๒. ข้อสังเกตที่เกี่ยวข้อง
๒.๑ เมื่อวันที่ ๑๓ พ.ค.๖๓ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี และสั่งการให้มุ่งสร้าง “๖ หลักประกัน” และ “๖ ความมั่นคง” เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้มีเสถี ยรภาพในเบื้องต้น จากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิ ด-๑๙ ทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตั วลงและทำให้จีนต้องเผชิญกั บความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งต้องเน้นการสร้างหลักประกัน ๖ ด้าน ได้แก่ (๑) การมีงานทำและชีวิตความเป็นอยู่ ขั้นพื้นฐานของประชาชน (๒) ความปลอดภัยของภาคส่วนที่เป็ นเอกเทศของตลาด (๓) ความปลอดภัยด้านธัญญาหารและพลั งงาน (๔) ความมั่นคงของห่วงโซ่อุตสาหกรรม (๕) ความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน และ (๖) การดำเนินธุรกิจของสังคมในระดั บชุมชนอย่างราบรื่น รวมทั้งการสร้างความมั่นคง ๖ ด้าน ได้แก่ (๑) การจ้างงาน (๒) การเงิน (๓) การค้าต่างประเทศ (๔) การลงทุนจากต่างประเทศ (๕) การลงทุนภายในประเทศ และ (๖) การคาดการณ์ด้านการตลาด
๒.๒ ข้อมูลในรายงานของกระทรวงพาณิ ชย์จีน ระบุว่า ปีนี้จีนได้ออกมาตรการดึงดูดทุ นต่างชาติจำนวนหนึ่ง เพื่อให้นักธุรกิจต่างชาติมี ความมั่นใจกับการลงทุน โดยได้ดึงดูดการลงทุนจากต่ างชาติจำนวน ๗๐,๓๖๐ ล้านหยวน ในช่วงเดือน เม.ย.๖๓ ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้น ๑๑.๘% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี ที่แล้ว และนับเป็นครั้งแรกที่มีอั ตราการเติบโตเป็นบวกในรอบ ๓ เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ การออกนโยบายส่งเสริมทุนต่ างชาติได้กระตุ้นให้โครงการทุ นต่างชาติที่สำคัญบางส่วนลงตัว โดยในช่วงระหว่างเดือน ม.ค. – เม.ย.๖๓ พบว่า อุตสาหกรรมไฮเทคมียอดการลงทุนต่ างชาติเพิ่มขึ้น ๒.๗% ในขณะที่เขตการค้าเสรี ได้ส่งเสริมการป้องกันการแพร่ ระบาดของโควิด-๑๙ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการพั ฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยยืนหยัดเดินหน้าขยายการเปิ ดประเทศ และให้การสนับสนุนมากขึ้นต่อทุ นต่างชาติที่พัฒนาในจีน ซึ่งพบว่า มณฑลกว่างตง มณฑลฝูเจี้ยน และมหานครเทียนจิน ต่างได้จัดตั้งเขตทดลองการค้ าเสรี และได้เผยแพร่ผลสำเร็จด้านนวั ตกรรม รวมทั้งสิ้น ๑๐๕ รายการ เป็นต้น
บทสรุป
๑.๑ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-
๑.๒ ต้องเสริมมาตรการป้องกั
๑.๓ ต้องเน้นการปฏิรูปโครงสร้างอุ
๒. ข้อสังเกตที่เกี่ยวข้อง
๒.๑ เมื่อวันที่ ๑๓ พ.ค.๖๓ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี และสั่งการให้มุ่งสร้าง “๖ หลักประกัน” และ “๖ ความมั่นคง” เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้มีเสถี
๒.๒ ข้อมูลในรายงานของกระทรวงพาณิ
บทสรุป
ที่ประชุ มคณะกรรมการประจำกรมการเมื องคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิ สต์จีน เมื่อวันที่ ๑๔ พ.ค.๖๓ ได้เน้นถึงความจำเป็นที่จะต้ องใช้มาตรการที่ยืดหยุ่นและมี ประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ใหม่ และแนวโน้มใหม่ของสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ในต่างประเทศ โดยจะต้องมีความร่วมมือกันระหว่ างประเทศอย่างลึกซึ้งในการป้ องกันและควบคุมโรคระบาด นอกจากนี้ ต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างด้านอุ ปทานอย่างลึกซึ่ง เพื่อสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่ โดยเฉพาะการสร้างรากฐานอุ ตสาหกรรมและยกระดับห่วงโซ่อุ ตสาหกรรม มีการเสริมความแข็งแกร่งให้กั บนวัตกรรมและความก้าวหน้ าทางเทคโนโลยี รวมทั้งต้องเสริมสร้ างการประสานงานระหว่ างประเทศและความร่วมมือกั นในการรักษาความปลอดภั ยและความมั่นคงของห่วงโซ่อุ ปทานและห่วงโซ่อุตสาหกรรมระหว่ างประเทศ ซึ่งจะทำให้จีนบรรลุเป้ าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสั งคมที่กำหนดไว้
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://www.fmprc.gov.cn/mfa_ eng/topics_665678/kjgzbdfyyq/ t1779619.shtml http://thai.cri.cn/20200515/ d4d7d17a-c79b-1028-8c0c- fe47a4c7918a.html