bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันอาทิตย์ที่ ๒๑ มี.ค.๖๔ กรณีที่นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบคำถามจากนักข่าวจีนและต่างประเทศเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของจีนและความสัมพันธ์กับต่างประเทศ เมื่อวันที่ ๗ มี.ค.๖๔


 
๑. นายหวัง อี้ กล่าวว่า ๓๐ ปีที่แล้ว จีนและอาเซียนได้สร้างความสัมพันธ์ในการเจรจาและนับตั้งแต่นั้นมาเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระดับภูมิภาค ดังที่ ขงจื่อ (孔子) เคยกล่าวไว้ว่า "ยืนขึ้นตอนสามสิบ" (“三十而立”) หลังจาก ๓๐ ปีของการเดินไปด้วยกัน จีนและอาเซียนได้กำหนดแนวความคิดร่วมกันในเรื่องความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน การช่วยเหลือซึ่งกันและกันและการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน มีชะตากรรมร่วมกันของการแบ่งปันความเจ็บปวดและการแบ่งปันความมีสุขภาพดี รวมทั้งการมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการฟื้นฟูเอเชียและสร้างอนาคตร่วมกัน
 
๒. นายหวัง อี้ ชี้ให้เห็นว่า เมื่อปีที่แล้วประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เข้าร่วมงาน China-ASEAN Expo (中国-东盟博览会) เป็นครั้งแรกและนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ได้เข้าร่วมการประชุมผู้นำจีน - อาเซียน สิ่งนี้แสดงให้เห็นอย่างเต็มที่ว่าจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือจีน - อาเซียนและสนับสนุนความเป็นกลางของอาเซียน เมื่อยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นใหม่ จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับอาเซียนเพื่อสร้างประชาคมแห่งอนาคตร่วมกันที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและสร้างอนาคตอีก ๓๐ ปีข้างหน้าที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น โดยจีนจะให้การสนับสนุนด้านการต่อต้านการแพร่ระบาดของอาเซียนต่อไป ทั้งนี้ จีนกำลังจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-๑๙ ให้กับประเทศในอาเซียนและให้ความช่วยเหลืออินโดนีเซียในการสร้างศูนย์วัคซีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในขั้นตอนต่อไป อีกทั้งจะให้การสนับสนุนที่สำคัญต่อความต้องการของประเทศในอาเซียนต่อไป
 
บทสรุป

นายหวัง อี้ เน้นย้ำว่า จีนจะพัฒนาความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับอาเซียนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จะสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่เพื่อเชื่อมโยงกับ "กรอบการฟื้นฟูที่ครอบคลุมของอาเซียน" (“东盟全面复苏框架”) และในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการดำเนินการตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership) ซึ่งในระยะเริ่มต้นจะส่งเสริมการเปิดตัวของกรอบความร่วมมือล้านช้าง - แม่โขงอย่างสมบูรณ์ โดยสร้างจุดเติบโตของความร่วมมือใหม่ในสาขาของเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาที่ยั่งยืน จีนจะเสริมสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับอาเซียนต่อไป รวมทั้งทำงานร่วมกันเพื่อขจัดการแทรกแซงและเร่งการปรึกษาหารือเกี่ยวกับ “แนวทางการปฏิบัติในทะเลจีนใต้" (“南海行为准则”) ดำเนินความร่วมมือเชิงปฏิบัติทางทะเลอย่างแข็งขันและรักษาสันติภาพในภูมิภาคและเสถียรภาพในระยะยาว
 
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล  

ข้อมูลจากเว็บไซต์ 

https://mp.weixin.qq.com/s/49ca7MN-KmorRhpHTnOzsw