ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจของจีนโดยเฉพาะการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ อยู่ที่ ๖.๘% ถึงแม้ว่าวอลโว่กำลังย้ายฐานการผลิตรถยนต์รุ่นยอดฮิตในจีน เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้าจากการขึ้นอัตราภาษีการค้าของสหรัฐฯ ในขณะที่จีนได้เตรียมยื่นฟ้องร้องต่อ WTO เพิ่มเติม ต่อกรณีแผนการตั้งภาษีการค้าของสหรัฐฯ กับสินค้าจีน ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. สำนักงานสถิติของจีนระบุว่าการเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่สองอยู่ที่ ๖.๗% เทียบกับ ๖.๘% ในไตรมาสแรก โดยยอดค้าปลีกในช่วงครึ่งแรกของปี เพิ่มขึ้น ๙.๔% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ลดลง ๐.๔% จากไตรมาสแรก ผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัว เพิ่มขึ้น ๖.๗% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลง ๐.๑% จากไตรมาสแรก การเติบโตของสินทรัพย์ถาวรอยู่ที่ ๖% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ลดลง ๑.๕% จากไตรมาสแรก ทั้งนี้ นายเหมา เสิ่นหยง โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวว่าตัวเลขนี้ แสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศยังคงมีเสถียรภาพ
๒. ก่อนหน้านี้สำนักงานสถิติฯ ได้เปิดเผยถึงปัจจัยที่ทำให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ว่าโครงสร้างอุตสาหกรรมจีนกำลังยกระดับขึ้น โดยผลผลิตในภาคไฮเทค ภาคอุปกรณ์เครื่องมือ ขยายตัวต่อเนื่อง ด้านการค้าต่างประเทศปรับตัวเข้าสู่สมดุลมากขึ้นนับจากต้นปีนี้ มีอัตราเติบโตการนำเข้าแซงหน้าการส่งออก ยอดเกินดุลการค้าหดแคบลงซึ่งในการเติบโตของไตรมาสแรกนั้น ภาคการบริโภค ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึง ๗๗ เปอร์เซ็นต์ มากกว่าปัจจัยด้านการลงทุนและการส่งออก และ ปัจจัยที่โดดเด่นในเศรษฐกิจจีนคือ การขยายตัวของภาคบริการ และการบริโภค รวมถึงการใช้จ่ายในช่วงเทศกาล และการท่องเที่ยวในประเทศ
๓. ข้อสังเกต เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจของจีน
๓.๑ เมื่อวันที่ ๑๙ ก.ค.๖๑ นาย Hakan Samuelsson ผู้บริหารระดับสูงของวอลโว่ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์สว่า วอลโว่กำลังย้ายฐานการผลิตรถยนต์รุ่นยอดฮิตในจีน เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้าจากการขึ้นอัตราภาษีการค้าของสหรัฐฯ โดยโยกย้ายฐานการผลิตรถยนต์ XC60 SUV ในจีน ซึ่งผลิตรถสำหรับตลาดสหรัฐฯไปยังยุโรป เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการขึ้นภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ส่วนโรงงานที่จีน ก็จะผลิตรถให้แก่ตลาดอื่นๆ ทั้งนี้ จี๋ลี่ (Geely) แห่งจีน ได้เข้าซื้อกิจการและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของวอลโว่เมื่อปี ๒๐๑๐ (พ.ศ.๒๕๕๓) ขณะนี้ วอลโว่ เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม ได้ทำยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นปีที่สี่ ไล่กวดคู่แข่งในตลาดอย่าง เมอซิเดส (Mercedes) และ บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) รวมทั้ง จี๋ลี่ได้ว่าจ้าง ซิติ กรุ๊ป (Citigroup), โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) และ มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) เพื่อเตรียมการให้วอลโว่เข้าระดมหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยในตลาดหลักทรัพย์
๓.๒ เมื่อวันที่ ๑๙ ก.ค.๖๑ กระทรวงพาณิชย์จีน แถลงว่า จีนเตรียมยื่นฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก หรือ WTO เพิ่มเติม ต่อกรณีแผนการตั้งภาษีการค้ากับสินค้าจีน มูลค่า ๒ แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยชี้ถึงความจำเป็นเพื่อปกป้องหลักการพื้นฐานของ WTO ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้จีนได้ยื่นฟ้องร้องไปยัง WTO หลังจากที่สหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน มูลค่า ๓๔,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ โดยโฆษกของกระทรวงพาณิชย์จีน นาย เกา เฟิง กล่าวว่า การเคลื่อนไหวตั้งกำแพงภาษีการค้าของสหรัฐฯนี้ ถือเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐาน WTO ว่าด้วยเกี่ยวกับการปฏิบัติการต่อชาติที่ได้รับความอนุเคราะห์ยิ่งทางการค้าและกฎกติกาเกี่ยวกับภาษีการค้า
บทสรุป
จุดยืนของจีนยังมุ่งสู่การเปิดกว้างทางการค้าภายใต้ระบบการค้าพหุภาคี รวมทั้งมีความเชื่อมั่นว่า ประเทศคู่ค้า จะต้องร่วมมือกันพัฒนาและรักษากฎระเบียบด้านการค้า ขณะที่สหรัฐฯ กำลังทำลายระบบการค้าพหุภาคีด้วยการใช้ไม้แข็งด้านภาษีการค้า ตลอดจนได้ป่าวร้องว่าตนบริสุทธิ์ โดยโยนความผิดให้แก่ประเทศอื่น ทั้งๆ ที่ฝ่ายจีนพยายามแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจที่สุด เพื่อสร้างความร่วมมือที่สมประโยชน์ร่วมกัน ในการปรึกษาหารือ ๔ รอบ กับฝ่ายสหรัฐฯมาตั้งแต่เดือน ก.พ.๖๑ แต่สหรัฐฯ กลับปัดทิ้งข้อฉันทามติที่ได้ตกลงกันแล้วถึงสองครั้ง ในเดือน พ.ค.๖๑ และเดือน มิ.ย.๖๑ ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้เร่งเดินหน้าเปิดศึกการค้าในวันที่ ๖ ก.ค.๖๑ และโหมกระพืออีกครั้งในวันที่ ๑๑ ก.ค.๖๑ ซึ่งนอกจากสหรัฐฯ จะเป็นฝ่ายผิดสัญญาแล้ว ยังมีความเคลื่อนไหวแบบไม่มีความแน่นอน โดยมีแนวโน้มว่าจะเป็นการปิดประตูการเจรจาทุกช่องทาง
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://tradingeconomics.com/china/gdp-growth-annual
https://mgronline.com/china/detail/9610000070645
https://mgronline.com/china/detail/9610000072313
https://mgronline.com/china/detail/9610000072322