จีนศึกษา (วันอาทิตย์ที่ ๒๓ ม.ค.๖๕) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้เข้าร่วมการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกปี ๒๐๒๒ ผ่านทางวิดีโอ ที่กรุงปักกิ่งและกล่าวสุนทรพจน์เรื่อง “ก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจและความอดทนเพื่อร่วมกันสร้างโลกที่ดีกว่าในยุคหลังโรคระบาดโควิด” (“坚定信心 勇毅前行 共创后疫情时代美好世界”) เมื่อวันที่ ๑๗ ม.ค.๖๕ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. นายสี จิ้นผิง เน้นว่า โลกทุกวันนี้กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งที่ไม่มีใครเห็นในรอบศตวรรษ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะเหตุการณ์ชั่วขณะกับประเทศหรือภูมิภาค แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่และลึกซึ้ง ต้องคิดให้ดีจากการวิเคราะห์เปรียบเทียบของวัฏจักรระยะยาวในอดีต และต้องเก่งในการเห็นการเปลี่ยนแปลงในสิ่งต่าง ๆ จากจุดที่ละเอียดอ่อน หล่อเลี้ยงโอกาสใหม่ในยามวิกฤต เปิดสถานการณ์ใหม่ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และกลั่นกรองพลังอันทรงพลังเพื่อเอาชนะความยากลำบากและความท้าทาย กล่าวคือ
๑.๑ ให้ทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะการแพร่ระบาด ข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าท่ามกลางคลื่นปั่นป่วนของวิกฤตการณ์โลก ประเทศต่างๆ ไม่ได้นั่งเรือเล็กมากกว่า ๑๙๐ ลำ แต่อยู่บนเรือใหญ่ที่มีโชคชะตาร่วมกัน เรือเล็กไม่สามารถต้านทานลมและคลื่นได้ มีเพียงเรือขนาดยักษ์เท่านั้นที่สามารถต้านทานคลื่นพายุได้ การเสริมสร้างความมั่นใจและช่วยเหลือกันเป็นวิธีเดียวที่ถูกต้องในการเอาชนะการแพร่ระบาด
๑.๒ แก้ไขความเสี่ยงต่างๆ และส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างมีเสถียรภาพ แต่ยังต้องเผชิญกับข้อจำกัดมากมาย ต้องสำรวจแรงขับเคลื่อนใหม่ๆ ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ โมเดลชีวิตทางสังคมแบบใหม่ และเส้นทางใหม่สำหรับการแลกเปลี่ยนบุคลากรภายใต้เงื่อนไขของการป้องกันและควบคุมโรคระบาด ส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางการค้าข้ามพรมแดน รับรองความปลอดภัยและความราบรื่นของอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งส่งเสริมความก้าวหน้าที่มั่นคงและมั่นคงของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
๑.๓ ก้าวข้ามช่องว่างการพัฒนาจากการที่กระบวนการพัฒนาทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ซึ่งดัชนีการพัฒนามนุษย์ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ ๓๐ ปี ประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศกลับสู่ความยากจนและความโกลาหลอันเนื่องมาจากโรคระบาด รวมทั้งผู้คนจำนวนมากในประเทศที่พัฒนาแล้วได้ตกอยู่ในสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก
๑.๔ ละทิ้งแนวคิดสงครามเย็นและบรรลุการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ผลประโยชน์ร่วมกัน และผลลัพธ์ที่ได้ทั้งสองฝ่าย ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์หลายครั้งแล้วว่าการเผชิญหน้าไม่เพียงแต่ไม่ได้ผล แต่ยังส่งผลร้ายตามมาอีกด้วย
๒. นายสี จิ้นผิง ชี้ให้เห็นถึงแนวทางในการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่อย่างรอบด้านของจีน
๒.๑ จีนจะส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงอย่างแน่วแน่ แนวโน้มการพัฒนาโดยรวมของเศรษฐกิจจีนนั้นดี ปีที่แล้ว GDP ของจีนเติบโตประมาณ ๘% โดยบรรลุเป้าหมายสองประการคือ การเติบโตที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำลง
๒.๒ จีนจะผลักดันการปฏิรูปและการเปิดประเทศอย่างแน่วแน่ โดยจีนจะเดินหน้าขยายการเปิดกว้างสู่โลกภายนอกอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงของโครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (“一带一路”)
๒.๓ จีนจะส่งเสริมการสร้างอารยธรรมทางนิเวศอย่างแน่วแน่ จีนจะก้าวข้ามขีดจำกัดและก้าวหน้าอย่างมั่นคง ค่อยๆ ลดแหล่งพลังงานแบบดั้งเดิมลงอย่างมีระเบียบในกระบวนการส่งเสริมการทดแทนแหล่งพลังงานใหม่ที่เชื่อถือได้ และรับรองการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่มีเสถียรภาพ จีนจะดำเนินการความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างแข็งขันในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และร่วมกันส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสีเขียวอย่างครอบคลุมของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
บทสรุป นายสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำว่า ปีที่แล้วครบรอบ ๑๐๐ ปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งได้รวมตัวกันและนำพาประชาชนจีนทำงานอย่างหนักมาเป็นเวลานาน โดยประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศและปรับปรุงชีวิตของผู้คน ได้บรรลุเป้าหมายในการสร้างสังคมที่เจริญรุ่งเรืองในระดับปานกลาง เอาชนะการต่อสู้กับความยากจน และแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างเบ็ดเสร็จ ขณะนี้ จีนได้เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ในการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่อย่างรอบด้าน
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://tz.china-embassy.org/zgyw/202201/t20220117_10596520.htm )