การลาดตระเวนร่วมเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายในแม่น้ำโขงของจีน-ลาว-เมียนมา-ไทย ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. สำนักข่าวซินหวาของจีนได้รายงานว่า เมื่อวันที่ ๒๑ พ.ย.๖๑ มีการจัดลาดตระเวนร่วมแม่น้ำโขงระหว่างจีน ลาว เมียนมา และไทย เพื่อต่อต้านการก่อการร้ายในแม่น้ำโขง นับตั้งแต่ที่ทั้ง ๔ ประเทศได้ริเริ่มเริ่มกลไกความร่วมมือด้านการลาดตระเวนในแม่น้ำโขงเพื่อความปลอดภัย ซึ่งพัฒนารูปแบบจากการลาดตระเวนเพียงอย่างเดียว เป็นรูปแบบพหุภาคีที่ร่วมกันปราบปรามยาเสพติด กู้ภัย รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลสารสนเทศ ไปจนถึงความร่วมมือพาหุภาคีที่ร่วมกันปราบปรามการก่อการร้าย การเข้าออกเมืองแบบผิดกฎหมาย และการกระทำผิดกฎหมายทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งได้มีการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ และรักษาความมั่นคงของภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ
๒. จีนได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากเมื่อวันที่ ๑ พ.ย.๖๑ จีนได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือทรัพยากรน้ำแม่น้ำล้านช้าง-แม่โขงครั้งแรก ขึ้นที่นครคุนหมิง ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลหวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ในฐานะเป็นกิจกรรมสำคัญด้านการปฏิบัติตามการประชุมครั้งที่สองของผู้นำประเทศในกลไกความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง โดยการประชุมครั้งนี้มีหัวข้อว่า “ความร่วมมือระหว่างหุ้นส่วนน้ำ ส่งเสริมการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” เพื่อมุ่งสร้างกลไกหารือนโยบายทรัพยากรน้ำ ตลอดจนเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเทคโนโลยี โดยมีผู้แทนประมาณ ๑๕๐ คน จากรัฐบาล องค์กรศึกษาวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ และนักธุรกิจจาก ๖ ประเทศสมาชิก (จีน ลาว เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม และไทย) และองค์การระหว่างประเทศเข้าร่วมการประชุม
๓. ข้อสังเกต
๓.๑ เมื่อวันที่ ๒๕ ต.ค.๖๑ สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ร่วมกันจัดการสัมมนาเรื่อง “One Belt One Road กับการเดินหน้าของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (CLMVT) ซึ่งนางหยัง หยัง ทูตฝ่ายการเมืองจากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้กล่าวปราศรัยระบุว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นว่า คู่ค้าอันดับแรกของความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” คือ ประเทศรอบข้าง และประเทศรอบข้างก็จะเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดด้วย โดยตั้งแต่ได้เสนอความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” เป็นเวลา ๕ ปี ยอดการค้าระหว่างจีนกับประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ ๗๐ จาก ๑๓๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี ๒๐๑๒ (พ.ศ.๒๕๕๕) เป็น ๒๒๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี ๒๐๑๗ (พ.ศ.๒๕๖๐)
๓.๒ อนุภูมิภาคแม่น้ำโขง มีความสำคัญต่อจีนใน ๒ ด้านใหญ่ๆ (๑) ในด้านมิติทางเศรษฐกิจ อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงพึ่งพาการค้าและการลงทุนของจีน (๒) ในด้านมิติความมั่นคงใหม่ (Non – Traditional Security) หรือมิติที่ไม่ใช่ทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็นเส้นทางสำคัญเชื่อมโยงจีนสู่เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเส้นทางลำเลียงพลังงานให้แก่ภูมิภาคทางตะวันตกของจีน เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แร่ทองแดง แร่เหล็ก ดีบุกและอาหารของจีน นอกจากนี้ ในเวลาเดียวกันนโยบายและความสนับสนุนของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ยังมีส่วนสำคัญต่อการสนับสนุนบทบาทของจีนในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้
บทสรุป
การประชุมความร่วมมือทรัพยากรน้ำแม่น้ำล้านช้าง-แม่โขงครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑ พ.ย.๖๑ ที่นครคุนหมิง มณฑลหวิ๋นหนาน (ยูนนาน) นั้น ได้แสดงถึงท่าทีของจีนต่อการให้ความสำคัญในการพัฒนาแม่น้ำโขงเป็นอย่างมาก ดังที่ นายเถียน เสียว์ปิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงชลประทานจีน ได้กล่าวว่า ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเกิดมาเป็นหุ้นส่วนของจีน ดังนั้น จึงต้องมีความมั่นใจ มีฝีก้าวเดียวกัน และใช้มาตรการที่เข้มแข็ง ระดมกำลังมุ่งสู่ความก้าวหน้า ผลักดันความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขงทุกด้าน อีกทั้งร่วมผลักดันการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองในลุ่มแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง โดยจีนได้เร่งผลักดันรูปธรรมของความร่วมมือดังกล่าวด้วยการจัดการลาดตระเวนร่วมเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายในแม่น้ำโขงขึ้น เมื่อวันที่ ๒๑ พ.ย.๖๑ ในขณะที่หลายประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงยังคงมีความวิตกกังวลหลายประการ โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายกองกำลังติดอาวุธของจีนเข้ามาในอนุภูมิภาคนี้เพิ่มมากขึ้น ที่อาจคล้ายคลึงกับกรณีการขยายการปฏิบัติการทางทหารของจีนเพื่อสนับสนุนการรักษาสันติภาพภายใต้กรอบของสหประชาชาติในทวีปแอฟริกา โดยการตั้งฐานทัพในต่างแดนแห่งแรกของจีนในประเทศจิบูตี (Djibouti) ซึ่งอาจทำให้ประเทศในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงเกิดการเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ ที่ยังคงมุ่งรักษาอำนาจอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://www.bta.bg/en/gallery/image/5359293
http://thai.cri.cn/20181123/703ae837-7756-8717-5433-4e5bfd10e2a3.html
http://thai.cri.cn/20181102/49eada38-1c6c-fee2-54c0-a647f7934f1c.html
http://thai.cri.cn/20181026/7482549f-53f5-6466-ae2f-1e32db62701b.html
https://www.chula.ac.th/impact/3890/