นโยบายการคลังของจีนในปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เมื่อวันที่ ๒๓ ม.ค.๖๒ นายหลี่ ต้าเหว่ย เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังจีน ได้กล่าวที่กรุงปักกิ่งว่า ปี ๒๐๑๘ หรือ พ.ศ.๒๕๖๑ จีนดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุก และลดภาษีอากรอย่างมีพลัง สภาพการคลังของจีนเป็นไปด้วยดี ดังนั้น ในปีนี้ (ปี ๒๐๑๙ หรือ พ.ศ.๒๕๖๒) จีนจะเสริมการใช้นโยบายการคลังเชิงรุกต่อไป ขณะที่ปฏิบัติตามนโยบายการลดภาษีที่ใช้ในปัจจุบันอย่างรอบด้าน ยังจะพยายามลดภาษีมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว รายได้การคลังของจีนสอดคล้องกับการคาดหมาย โดยรายได้งบประมาณสาธารณะทั่วประเทศจีนมีถึง ๑๘ ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น ๖.๒%
๒. ในวันเดียวกันนั้น (วันที่ ๒๓ ม.ค.๖๒) นายห่าว เหล่ย รองอธิบดีกรมงบประมาณ กระทรวงการคลังจีน กล่าวที่กรุงปักกิ่งว่า ปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) จีนจะเพิ่มขนาดการจำหน่ายพันธบัตรเฉพาะด้านในรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนโครงการก่อสร้างรายสำคัญที่กำลังดำเนินการอยู่ ขณะเดียวกัน จีนจะเสริมการบริหารคุ้มครองพันธบัตรที่ชอบด้วยกฎหมายไม่เกิดความเสี่ยง โดยจีนจะออกพันธบัตรเฉพาะด้านในโครงการสาธารณะที่มีผลกำไรบ้าง และจะให้รัฐบาลท้องถิ่นปฏิบัติหน้าที่ชำระคืนพันธบัตรที่ถึงกำหนดเวลา และจัดงบประมาณเพื่อจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรก่อนกองทุนอื่น อีกทั้งต้องสร้างระบบบริหารงบประมาณของกองทุนเชิงรัฐบาลให้สมบูรณ์แบบ โดยเชื่อมต่อพันธบัตรเฉพาะด้านกับทรัพย์สินและผลกำไรในอนาคต เพื่อคุ้มครองโครงการให้มีความสมดุลในวาระและรายได้รายจ่ายประจำปี รวมทั้งใช้วิธีจำกัดความเสี่ยงของโครงการรายเดี่ยวเพื่อป้องกันความเสี่ยงรวมของพันธบัตรเฉพาะด้าน
๓. ข้อสังเกตเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการคลังของจีนในปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) โดยเมื่อวันที่ ๑๐ ม.ค.๖๒ นายหลิว คุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงการปฏิบัติตามมติที่ประชุมงานด้านเศรษฐกิจส่วนกลางว่า กระทรวงการคลังต้องเพิ่มการลดหย่อนภาษีและเพิ่มงบประมาณการคลังให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังจะต้องยกประสิทธิภาพของการจัดสรรและการประยุกต์ใช้ทางการเงินให้มากขึ้น โดยกระทรวงการคลังเรียกร้องให้ท้องที่ต่างๆ ทั่วประเทศปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง กำกับดูแลให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย เตรียมพร้อมดำเนินโครงการต่างๆ อย่างจริงจัง เร่งรัดการออกพันธบัตร จัดการลงทุนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และเร่งการเบิกจ่ายเงิน
บทสรุป
มีแนวโน้มว่า ในปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) จีนจะใช้นโยบายการคลังเชิงบวกต่อไป ขณะที่การตอบสนองต่อความต้องการในภาพรวมนั้น จะมุ่งไปสู่การปรับปรุงนโยบายการคลังเชิงโครงสร้างให้ดี โดยเน้นให้เศรษฐกิจรายย่อยผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจคุณสภาพสูง รวมทั้งจะต้อง “เพิ่มกำลัง” อันหมายถึง การเพิ่มกำลังในการลดภาษี ลดค่าใช้จ่าย และต้อง “ยกระดับประสิทธิภาพ” ซึ่งหมายถึง ยกประสิทธิภาพการจัดการและการใช้เงินทุนการคลัง ภายใต้การกำกับดูแลให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://www.china.org.cn/business/2018-12/21/content_74300985.htm
http://thai.cri.cn/20190124/164de633-33d0-9c60-49e8-50794d5d1d58.html
http://thai.cri.cn/20190124/4b17c078-81a5-c205-6caf-3413ae6476b9.html
http://thai.cri.cn/20190114/a5418648-64b2-4f0e-2c1d-2a0ca72be40c.html
http://thai.cri.cn/20190115/cbfee834-c50c-cf73-f522-fd20615cb99a.html
http://thai.cri.cn/20190109/c877af15-c3a1-cce4-85f3-e625b905401f.html