bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันอาทิตย์ที่ ๗ ก.พ.๖๔ การเพิ่มเส้นทางด่วนเส้นใหม่ในพื้นที่ชายแดนระหว่างจีนและประเทศเมียนมาร์


 
๑. ทางด่วนจิงไห่ (景海高速公路) ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองจิ่งหงและอำเภอเหมิงไห่ในเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาของมณฑลยูนนาน ได้เปิดเดินรถถึงกันเมื่อวันที่ ๑๕ ม.ค.๖๔ ซึ่งเป็นการสิ้นสุดประวัติศาสตร์ของการไม่มีเส้นทางด่วนของอำเภอเหมิงไห่ และตั้งแต่นั้นมาการเดินทางจากคุนหมิงซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลยูนนาน ไปยังด่านต่าหลัวในอำเภอเหมิงไห่ที่ติดชายแดนจีน – เมียนมาร์จึงสะดวกมากขึ้น กล่าวคือ
     ๑.๑ เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศของจีน ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมาร์ ทั้งนี้ เส้นทางหลักของทางด่วนจิงไห่เริ่มต้นจากทางตะวันออกของเมืองจิ่งหงและสิ้นสุดที่ทางใต้ของอำเภอเหมิงไห่ โดยเส้นทางสายหลักนี้ได้ก่อสร้างตามมาตรฐานของทางด่วนสองช่องทางสี่เลน มีความยาวประมาณ ๕๔ กิโลเมตรและได้ออกแบบให้ใช้ความเร็ว ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นเครือข่ายทางด่วนแห่งชาติสายด่วน G85 ที่เชื่อมต่อระหว่างภาคกลางและตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนและนำไปสู่เอเชียใต้และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
     ๑.๒ ตามรายงานหลังจากที่ทางด่วนจิงไห่สร้างเสร็จและเปิดการจราจรเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา โดยได้ตระหนักถึง "เส้นทางด่วนระหว่างอำเภอสู่อำเภอ" (“县县通高速”) และเวลาในการเดินทางระหว่างเมืองจิ่งหงและอำเภอเหมิงไห่ก็สั้นลงจากประมาณ ๑.๕ ชั่วโมงเหลือประมาณครึ่งชั่วโมง โดยช่วยลดความกดดันในการจราจรตลอดเส้นทางซึ่งได้ปรับปรุงโครงสร้างเครือข่ายถนนในภูมิภาคส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมในภูมิภาค รวมทั้งเสริมสร้างเอกภาพของชาติและสร้างช่องทางการจราจรหลักของการเชื่อมต่อโครงข่ายระหว่างจีน – เมียนมาร์
 
๒. จีนได้แสดงท่าทีที่จะทำงานร่วมกับมิตรประเทศเพื่อสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ("一带一路”/ ข้อริเริ่ม "สายแถบและเส้นทาง" “Belt and Road Initiative : BRI")  ให้เป็นเส้นทางแห่งความร่วมมือที่รวมตัวกัน เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคม  และร่วมกันส่งเสริมการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมวลมนุษยชาติ ดังที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันที่ ๑๘ มิ.ย.๖๓ ในการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ซึ่งได้กระตุ้นให้เกิดการตอบรับที่กระตือรือร้น
 
บทสรุป

จีนคาดหวังว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศภายใต้ข้อริเริ่ม“ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI จะเป็นพลังที่แข็งแกร่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยเฉพาะในโอกาสที่ปี ๒๐๒๑ (พ.ศ.๒๕๖๔) เป็นปีแห่งการครบรอบ ๑๐๐ ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเป็นปีแรกของ "แผนห้าปี ฉบับที่ ๑๔" (“十四五”) ของจีน เพื่อส่งเสริมการพัฒนา “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ("一带一路”) ที่มีคุณภาพสูงต่อไป
 
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

http://www.xinhuanet.com/2021-01/17/c_1126991294.htm

https://www.seetao.com/details/59457.html 

http://field.10jqka.com.cn/20210205/c626848775.shtml