จีนศึกษา วันเสาร์ที่ ๑๘ ม.ค.๖๓ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกั บประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เดินทางเยือนเมียนมาเป็นครั้ งแรกในฐานะผู้นำจีน ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ในระหว่างวันที่ ๑๗ – ๑๘ ม.ค.๖๓ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ได้เดินทางเยือนประเทศเมี ยนมาอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายอู วินมยิน ประธานาธิบดีเมียนมา ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนต่ างประเทศครั้งแรกในปีนี้ของผู้ นำจีน อีกทั้งตรงกับวาระครบรอบ ๗๐ ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ ทางการทูตระหว่างจีนและเมี ยนมาด้วย
๒. การเตรียมการเพื่อต้อนรั บประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
๒.๑ เมื่อวันที่ ๑๕ ม.ค.๖๓ สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่ วนกลางจีน (ไชน่ามีเดียกรุ๊ป) ได้จัดการประชุมโต๊ะกลมสื่ อมวลชนต่อความร่วมมือ”หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”จีน-เมียนมา ที่เมืองย่างกุ้ง โดยมีบุคคลวงการสื่อมวลชนจีน- เมียนมากว่า ๗๐ คนเข้าร่วม และได้อภิปรายถึงกระบวนการเยื อนเมียนมาของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง รวมถึงบทบาทในการผลักดันความร่ วมมือ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ระหว่างกัน พร้อมทั้งส่งเสริมการพั ฒนาความสัมพันธ์จีน-เมี ยนมาของสื่อมวลชน ทั้งนี้ ผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมเห็นว่า การเชื่อมโยงประชาชนเป็นพื้ นฐานของการพัฒนาความสัมพันธ์ สองประเทศ และการร่วมกันสร้างสรรค์”หนึ่ งแถบ หนึ่งเส้นทาง” สื่อมวลชนต้องทำหน้าที่เป็นเสี ยงเชิงบวก ในการรักษาจุดมุ่งหมายและจุดยื นที่มีความเป็นกลาง เพิ่มพูนความเข้ าใจของประชาชนสองประเทศ แสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่าง และให้แนวคิดการมีอนาคตร่วมกั นของจีน-เมียนมาหยั่ งรากในใจประชาชน เพื่อสร้างความผาสุกแก่ ประเทศชาติและประชาชนของทั้ งสองประเทศ
๒.๒ เมื่อวันที่ ๑๖ ม.ค.๖๓ หนังสือพิมพ์เมียนมาร์อาลินเดลี่ (Myanmar Alin Daily) หนังสือพิมพ์เจมอน (Kyemon) และหนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ ออฟเมียนมาร์ (Global New Light of Myanmar) ต่างเผยแพร่บทความของประธานาธิ บดี สี จิ้นผิง ซึ่งได้หยิบยกสุภาษิตจีนและเมี ยนมา มากล่าวถึงว่า “ญาติจะใกล้ชิดยิ่งขึ้นเมื่ อไปมาหาสู่กัน และเพื่อนจะสนิทยิ่งขึ้นเมื่อติ ดต่อพบหากัน” แสดงความปรารถนาของจีนที่จะร่ วมมือกับมิตรชาวเมียนมา ส่งเสริมให้การสร้างประชาคมที่ มีอนาคตร่วมกันมีความใกล้ชิดยิ่ งขึ้น โดยในบทความดังกล่าวมีหัวข้อว่า “เขียนบันทึกบทใหม่แห่งมิ ตรภาพฉันพี่น้องสหัสวรรษ” ได้กล่าวว่า ๗๐ ปีนับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพั นธ์ทางการทูต จีนและเมียนมาสนับสนุนและปฏิบั ติตามหลักการ ๕ ประการของการอยู่ร่วมกันอย่างสั นติ เชื่อใจกันโดยตลอด เคารพซึ่งกันและกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน เป็นแบบฉบับของประเทศขนาดใหญ่ และขนาดเล็กที่มีความเสมอภาค มีผลประโยชน์ซึ่งกันและกันและมี การพัฒนาร่วมกัน นำประโยชน์สุขมาสู่ประชาชนของทั้ งสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายควรใช้โอกาสครบรอบ ๗๐ ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ ทางการทูต เสริมสร้างการสื่อสารเชิงกลยุ ทธ์ ส่งเสริมการแลกเปลี่ ยนทางเศรษฐกิจและการค้าที่ลึกซึ้ งยิ่งขึ้น เพิ่มการแลกเปลี่ยนและการเรี ยนรู้ซึ่งกันและกัน ปรับปรุงการประสานงานในกิ จการระดับภูมิภาคและระดับโลก ส่งเสริมให้ความสัมพันธ์จีน-เมี ยนมาก้าวสู่ยุคใหม่
๓. ผลจากการเดินทางเยือนเมี ยนมาของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งได้มีการลงนามในสัญญาก่อสร้ างโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าหลายพั นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยโครงการเหล่านี้ จะเป็นส่วนสำคัญของโครงการระเบี ยงเศรษฐกิจจีน-เมียนมา (China-Myanmar Economic Corridor: CMEC) ในการสร้างเส้นทางให้เชื่อมจี นไปสู่มหาสมุทรอินเดีย ตามแนวคิดเส้นทางสายไหมและเส้ นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ ๒๑ ที่จะขยายเครือข่ายโครงสร้างพื้ นฐานและอิทธิพลของจีนไปทั่วโลก ซึ่งโครงการดังกล่าวประกอบด้วย
๓.๑ โครงการท่าเรือน้ำลึกบริ เวณชายฝั่งรัฐยะไข่มูลค่า ๑.๓ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นหัวใจหลั กของโครงการระเบียงเศรษฐกิจจีน- เมียนมา โดยท่าเรือ "เจ้าผิว" (Kyaukphyu) จะเป็นเส้นทางออกสู่มหาสมุทรอิ นเดียของจีน ซึ่งเมียนมาได้เจรจาลดทุนสร้ างลงมาจาก ๗.๒ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้สำเร็จ เพื่อหลีกเลี่ยงติด "กับดักหนี้" กับจีน แต่อย่างไรก็ดี เมียนมาก็ต้องลงเงินร้อยละ ๓๐ ในโครงการ ทั้งนี้ ในการสร้างท่าเรือจะมีการเปลี่ ยนไร่นาและป่าสักโดยรอบให้ กลายเป็นพื้นที่อุ ตสาหกรรมขนาดใหญ่ เป็นโรงงานผลิตเสื้อผ้ าและอาหารแปรรูป
๓.๒ โครงการรถไฟความเร็วสูง โดยเส้นทางส่ วนแรกของโครงการรถไฟความเร็วสู งมูลค่า ๘.๙ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อที่จะเชื่อมจากมณฑลยู นนานของจีนที่ไม่มี ทางออกทางทะเล ไปสู่ชายฝั่งทางฝั่งตะวั นตกของเมียนมา
๓.๓ โครงการเปลี่ยนพื้นที่พรมแดนรั ฐฉานให้กลายเป็นเขตพื้นที่ เศรษฐกิจพิเศษ ๓ แห่ง เพื่อเพิ่มผลประโยชน์ให้กับผู้ ค้าทั้งสองประเทศ
๓.๔ โครงการสร้างเมืองขึ้นใหม่ในพื้ นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำในเมื องย่างกุ้ง เพื่อเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ โดยหวังว่าเมืองใหม่นี้จะแก้ปั ญหาการจราจรติดขัด ประชากรแออัด และการขาดไฟฟ้าและน้ำได้
๓.๕ โครงการเขื่อนมิตโสน มูลค่า ๓.๖ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้า ๖,๐๐๐ เมกะวัตต์ ซึ่งอาจเป็นประเด็นที่สำคั ญมากที่สุดในการมาเยือนของจี นในครั้งนี้ แม้ว่าจะเคยถูกสาธารณชนเมี ยนมาประท้วง
บทสรุป
๒. การเตรียมการเพื่อต้อนรั
๒.๑ เมื่อวันที่ ๑๕ ม.ค.๖๓ สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่
๒.๒ เมื่อวันที่ ๑๖ ม.ค.๖๓ หนังสือพิมพ์เมียนมาร์อาลินเดลี่
๓. ผลจากการเดินทางเยือนเมี
๓.๑ โครงการท่าเรือน้ำลึกบริ
๓.๒ โครงการรถไฟความเร็วสูง โดยเส้นทางส่
๓.๓ โครงการเปลี่ยนพื้นที่พรมแดนรั
๓.๔ โครงการสร้างเมืองขึ้นใหม่ในพื้
๓.๕ โครงการเขื่อนมิตโสน มูลค่า ๓.๖ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้า ๖,๐๐๐ เมกะวัตต์ ซึ่งอาจเป็นประเด็นที่สำคั
บทสรุป
การเดินทางเยือนเมี ยนมาของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะเป็นการเปิดหน้าใหม่ในความสั มพันธ์ระหว่างจีนกับเมียนมา และจะนำประโยชน์สุขมาสู่ ประชาชนของทั้งสองประเทศ ตลอดจนถือเป็นการเยือนที่ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งครั้ งหนึ่ง ในการส่งเสริมการพัฒนาที่มั่ นคงของความร่วมมือเมียนมา–จีน รวมถึงความร่วมมือตามข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ของจีน และจากข้อมูลของธนาคารโลกพบว่า การส่งออกของเมียนมาไปจีนที่เป็ นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด ในปี ๒๐๑๘ (พ.ศ.๒๕๖๑) มีมูลค่า ๕,๕๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่เมียนมานำเข้าจากจีนมีมู ลค่าสูงถึง ๖,๒๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจีนเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดั บสองในเมียนมารองจากสิงคโปร์
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์