ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ยุโรป จากการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้พบปะหารือผ่านระบบทางไกลจากกรุงปักกิ่งกับ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประธานหมุนเวียนสหภาพยุโรป นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป และนางอูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป เมื่อช่วงค่ำวันที่ ๑๔ ก.ย.๖๓ (ตอนที่ ๒ ว่าด้วยข้อตกลงร่วมในการพัฒนาความร่วมมือ - จบ) ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ผู้นำจีน เยอรมนี และสหภาพยุโรป ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างลึกซึ้ง เกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ยุโรป รวมถึงกำหนดแนวทางในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ยุโรปในขั้นต่อไป พร้อมทั้วางแผนความร่วมมือด้านสำคัญระหว่างกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า
๑.๑ จะเสริมการแลกเปลี่ยน การประสานงาน และความร่วมมือ เพื่อประกันให้กิจการทางการเมืองด้านต่าง ๆ ระหว่างกันประสบความสำเร็จลุล่วง อีกทั้งสองฝ่ายยังจะลงลึกความไว้เนื้อเชื่อใจกันและอำนวยประโยชน์แก่กันเพื่อได้รับชัยชนะร่วมกัน นอกจากนี้ ยังจะร่วมกันรักษาหลักแห่งความเป็นพหุภาคี ร่วมกันรับมือความท้าทายระดับโลก และผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ยุโรปให้สูงขึ้นอีกระดับ (共同应对全球性挑战,推动中欧关系迈向更高水平。)
๑.๒ จีน-ยุโรปร่วมกันประกาศว่า มีการลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (中欧地理标志协定) หรือGI และยืนยันจะเร่งดำเนินการเจรจาเกี่ยวกับการลงทุนระหว่างจีน-ยุโรป เพื่อให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ (确认加快中欧投资协定谈判,实现年内完成谈判的目标。)
๑.๓ จีน-ยุโรปตกลงจะดำเนินการเจรจาระดับสูงเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศ รวมถึงความร่วมมือด้านดิจิทัล เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนแห่งความร่วมมือสีเขียวและดิจิทัล (中欧决定建立环境与气候高层对话和数字领域高层对话,打造中欧绿色合作伙伴、数字合作伙伴关系。)
๒. นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป และนางอูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ได้กล่าวว่า
๒.๑ จีนเป็นหุ้นส่วนสำคัญด้านความร่วมมือยุทธศาสตร์ที่ยุโรปให้ความเคารพนับถือ โลกปัจจุบันต้องการให้ยุโรปกับจีนเสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือ ร่วมกันปกป้องลัทธิพหุภาคี ต่อต้านลัทธิเอกภาคีและลัทธิกีดกัน รับมือความท้าทายด้านต่าง ๆ ทั่วโลกอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สอดคล้องกับผลประโยชน์ร่วมกันของยุโรป จีน และประชาคมโลก โดยยุโรปยินดีเสริมการแลกเปลี่ยนกับจีน เพิ่มพูนความเชื่อถือซึ่งกันและกัน ผลักดันให้ประสบผลสำเร็จมากขึ้นในความร่วมมือด้านต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เศรษฐกิจสีเขียว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นต้น
๒.๒ ยุโรปรู้สึกมีกำลังใจต่อการที่ยุโรปกับจีนลงนามข้อตกลงว่าด้วยสัญลักษณ์ทางภูมิศาสตร์ พร้อมกับต้อนรับการที่จีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเข้าถึงตลาดของต่างชาติ ขยายการเปิดประเทศ รวมถึงจะใช้ความพยายามเพื่อเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการลงทุนระหว่างยุโรป-จีนภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มแรงขับเคลื่อนใหม่แก่ความสัมพันธ์ยุโรป-จีน โดยยุโรปยินดีเสริมสร้างความร่วมมือกับจีนในองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก และองค์การการค้าโลก เป็นต้น ผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการต้านโรคระบาด ปกป้องการค้าเสรี รวมถึงส่งเสริมให้เศรษฐกิจยุโรป จีน และทั่วโลกพื้นฟูโดยเร็ว
๒.๓ สำหรับในประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ยุโรปยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าตัวเองยังคงมีปัญหาอยู่ พร้อมกับหวังว่าจะร่วมกับจีนดำเนินการแลกเปลี่ยนโดยยึดหลักแห่งการเคารพซึ่งกันและกัน รวมถึงความเสมอภาคเท่าเทียม เพิ่มพูนความเข้าใจซึ่งกันและกัน ตลอดจนจัดการความแตกต่างและความขัดแย้งระหว่างกันอย่างเหมาะสม
บทสรุป
ในระหว่างการพบปะเจรจา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวว่า ขณะนี้ โควิด-๑๙ ทำให้การเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบ ๑๐๐ ปีเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น มนุษย์กำลังเผชิญความท้าทายร่วมกันมากมายและยืนอยู่บนจุดหักเห จีน-ยุโรปเป็นสองพลังอำนาจ สองตลาด และสองอารยธรรมสำคัญของโลก เมื่อเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ จึงยิ่งต้องมุ่งมั่นไปยังทิศทางที่ให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันและดำเนินความร่วมมือด้วยความสามัคคีกัน พร้อมทั้งเร่งผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างจีน-ยุโรปอย่างเป็นปกติและมั่นคง เพื่อเติมพลังเชิงบวกแก่การรับมือโควิด-๑๙ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการรักษาความเป็นธรรม นอกจากนี้ ผู้นำจีนและยุโรปยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างลุ่มลึกเกี่ยวกับประเด็นระหว่างประเทศและภูมิภาค เช่น ปัญหาอัฟกานิสถานและปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน เป็นต้น โดยสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าจะเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและประสานงาน ตลอดจนใช้ความพยายามร่วมกันปกป้องเสถียรภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศและภูมิภาค
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์