มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. สำนักงานคณะรัฐมนตรีจีนเผยแพร่เอกสาร “ความเห็นชี้นำการเร่งผลักดันการสร้างระบบเครดิตทางสังคม และการจัดตั้งกลไกกำกับดูแลแบบใหม่ที่ถือเครดิตเป็นพื้นฐาน” โดยระบุว่า ต้องจัดตั้งกลไกฯ ใหญ่นี้ และปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น โดยเพิ่มขีดความสามารถและยกระดับการกำกับดูแล ปรับปรุงระเบียบตลาดให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในการประกอบธุรกิจให้ดีขึ้น และผลักดันการพัฒนาอย่างมีคุณภาพสูง เนื่องจากเมื่อย่างเข้าสู่เดือนกรกฎาคมของปี หน่วยงานต่าง ๆ ของจีน เช่น กลุ่มสังคม กองทุน หน่วยงานราชการ กลุ่มชุมชนในพื้นที่ระดับล่าง จะเข้าสู่ "สถานภาพ" ใหม่ ด้วยการใช้ทะเบียนที่ระบุถึงรหัสเครดิตทางสังคม การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นว่า จีนเข้าสู่การใช้ระบบ "รหัสเครดิตทางสังคม" แบบเดียวกันทั่วประเทศในเบื้องต้นแล้ว
๒. การแจก "รหัสเครดิตทางสังคม" ทั่วประเทศ เท่ากับเป็นการแจก "หมายเลขสถานภาพ หรือ หมายเลขบัตรประชาชน" ที่เป็นระบบเดียวกันให้กับนิติบุคคลหรือหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อสร้างความโปร่งใสทางเครดิตมากขึ้น ทุกภาคส่วนของสังคมจีนเห็นว่า จะมีส่วนกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์จากภาคการตลาด และเป็นหลักประกันการกำกับดูแลและการบริการจากภาครัฐ รวมถึงกลไกการกระตุ้นการรักษาเครดิตทางสังคม และลงโทษผู้ทำผิดหลักเครดิตทางสังคมในเบื้องต้น ตลอดจนการสร้างเมืองนำร่องระบบเครดิตทางสังคม นอกจากนี้ ยังจะเร่งเดินหน้าบัญญัติกฎหมายและมาตรฐานเกี่ยวกับเครดิตทางสังคมให้สมบูรณ์ขึ้นในเร็ววัน ซึ่งล่าสุด สำนักงานการบินพลเรือนจีนประกาศบัญชีรายชื่อ ผู้ไร้ความน่าเชื่อถือทางสังคมที่มีโทษร้ายแรง ไม่อนุญาตให้โดยสารสายการบินพลเรือน จำนวน ๘๖ ราย ซึ่งประกาศในเว็บไซต์ทางการของสำนักงานการบินพลเรือนจีนและเว็บไซต์เครดิตไชน่า (creditchina.gov.cn) ในประกาศระบุว่า ผู้ไร้ความน่าเชื่อถือดังกล่าวจะถูกห้ามโดยสารเครื่องบินพลเรือนเป็นเวลา ๑ ปี นับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป เนื่องจากผู้ไร้ความน่าเชื่อถือดังกล่าวกระทำผิดกฎหมาย กฎข้อบังคับทางการปกครองที่เกี่ยวข้องในท่าอากาศยานหรือกิจการการบินพลเรือนจนถูกหน่วยงานรักษาความสงบดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายการปกครอง เป็นต้น
๓. ข้อสังเกต การดำเนินการของระบบเครดิตทางสังคมดังกล่าว รัฐบาลจีนได้ขอความร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น China Rapid Finance, Tencent เจ้าของ WeChat ที่มีผู้ใช้กว่า ๘๕๐ ล้านคน , Alibaba เจ้าของ Alipay ซึ่งมี Fin Tech Platform ที่ออกแบบมาไม่เพียงแต่เป็นช่องทางการทำธุรกรรมการเงิน แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลลักษณะการจับจ่ายต่าง ๆ รวมถึงการคำนวน tax อีกด้วย ทั้งนี้ คะแนนความน่าเชื่อถือของประชากรมีตั้งแต่ ๓๕๐ – ๙๕๐ คะแนน โดยแบ่งออกเป็นการให้คะแนนตามกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การ shopping หรือ ความสัมพันธ์กับผู้อื่น ฟังดูเหมือนน่ากลัว แต่ดูเหมือนว่า ประชากรจีนไม่ได้ต่อต้านระบบนี้เท่าไหร่นัก เพราะหากคุณมีคะแนนตั้งแต่ ๖๐๐ คะแนนเป็นต้นไป ก็จะมีโอกาสในการขอสินเชื่อเพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ได้สูงถึง ๕,๐๐๐ หยวน (ประมาณ ๒๕,๐๐๐ บาท) หรือถ้ามีคะแนนสูงถึง ๖๕๐ ก็จะสามารถเช่ารถได้โดยไม่ต้องมีค่ามัดจำ และความพิเศษสูงขึ้นเรื่อย ๆ หากคะแนนสูงถึง ๗๐๐ ก็จะสมัครไปเที่ยวสิงคโปรได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเอกสารประกอบการยื่นคำร้อง และหากคะแนนสูงไปถึง ๗๕๐ คะแนน ก็จะได้ Fast-trached ในการขอวีซ่ายุโรป เป็นต้น
บทสรุป
ปัจจุบันระบบการให้รางวัลและลงโทษทางสังคมในจีนกำลังขยายขอบเขตการใช้มากขึ้น และได้รับผลที่น่าพอใจอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลเมื่อปลายเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว ศาลต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ประกาศชื่อผู้ถูกดำเนินคดีไร้ความน่าเชื่อถือทางสังคมจำนวน ๑๐,๘๙๐,๐๐๐ คน โดยในขั้นต่อไป จีนจะผลักดันการพัฒนาระบบเครดิตทางสังคมต่อไปด้วยการเร่งจัดตั้งกลไกกำกับดูแลแบบใหม่ พัฒนาระบบเครดิตในเขตปริมณฑลสำคัญ และปรับกลไกการให้รางวัลและลงโทษผ่านเครดิตทางสังคมของทั้งสังคมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อสร้างเสริมให้พลเมืองของประเทศเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีระเบียบวินัย ซึ่งจะทำให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสงบสุข
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://www.abacusnews.com/digital-life/chinas-social-credit-system-becoming-reality/article/3017971
http://thai.cri.cn/20190719/e5f9e24e-756d-4a64-478c-9488235e86ff.html
http://thai.cri.cn/20180806/a1c3f0e7-d9de-4e93-a23d-8b7e949ae525.htm
http://thai.cri.cn/20180616/a56e5290-6fcc-4369-957e-3cf7a548d712.html
http://thai.cri.cn/20180709/05af87ae-a634-43bc-96d0-04a8534b2a57.html
https://www.coraline.co.th/single-post/Social-Credit
https://dev.to/milandhar/china-s-social-credit-system-22b0