bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันเสาร์ที่ ๒๑ มี.ค.๖๓ ประธานาธิบดีปากีสถานเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑๖ – ๑๗ มี.ค.๖๓

จีนศึกษา วันเสาร์ที่ ๒๑ มี.ค.๖๓ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประธานาธิบดีปากีสถานเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑๖ – ๑๗ มี.ค.๖๓ และเข้าพบหารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เมื่อวันที่ ๑๗ มี.ค.๖๓ ที่กรุงปักกิ่ง ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้พบปะหารือกับนายอารีฟ อัลวี (Arif Alvi) ประธานาธิบดีปากีสถาน กล่าวคือ
     ๑.๑ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวเน้นว่า ปัจจุบัน โรคโควิด-๑๙ กำลังแพร่ระบาดในทั่วโลก ประเทศต่างๆ ควรร่วมแรงร่วมใจกันต่อต้านโควิด-๑๙ จีนยินดีที่จะอุทิศกำลังร่วมกับทั่วโลกเพื่อปราบการแพร่ระบาด จะสนับสนุนและช่วยเหลือปากีสถานต่อไป
     ๑.๒ ประธานาธิบดีปากีสถาน กล่าวว่า เมื่อเผชิญกับภัยคุกคาม พรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐบาลจีนสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำและพลังอันยิ่งใหญ่ในการรวมใจประชาชนจีนต่อสู้กับโรคระบาด ประสบการณ์ของจีนเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับประเทศอื่นๆ อิทธิพลบางกลุ่มมุ่งใส่ร้ายจีนและหวังให้จีนถูกโดดเดี่ยวจากแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ย่อมไม่สำเร็จอย่างที่ตั้งใจเด็ดขาด ปากีสถานจะยืนเคียงข้างกับจีน กระชับความร่วมมือให้มากขึ้นและสร้างระเบียงเศรษฐกิจปากีสถาน-จีน ให้ดี

๒. ในวันเดียวกัน (วันที่ ๑๗ มี.ค.๖๓) นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้พบปะหารือกับนายอารีฟ อัลวี ประธานาธิบดีปากีสถาน กล่าวคือ
     ๒.๑ นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง กล่าวเน้นว่า หลังจากจีนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-๑๙ ปากีสถานได้ช่วยเหลือประชาชนจีนอย่างทันท่วงที ปัจจุบัน จีนกับปากีสถานล้วนประสบกับการท้าทายจากโควิด-๑๙ ซึ่งจีนยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์การป้องกันและควบคุมโรคระบาดกับปากีสถาน รวมทั้งอำนวยสิ่งของช่วยเหลืองานต้านโรคระบาดที่จำเป็นเร่งด่วนแก่ปากีสถาน เพื่อร่วมกันรับมือกับการท้าทาย นอกจากนี้ จีนยินดีกระชับความร่วมมือกับปากีสถานในด้านต่างๆ เพื่ออำนวยประโยชน์แก่กัน โดยผลักดันการก่อสร้างระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถานและโครงการนิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือปากีสถานในการปราบภัยตั้กแตน ตลอดจนการกระชับความร่วมมือในกิจกรรมระหว่างประเทศ รวมถึงการส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศและส่วนภูมิภาค
     ๒.๒ ประธานาธิบดีปากีสถาน ได้กล่าวขอบคุณจีนที่ช่วยเหลือปากีสถานปราบภัยจากตั้กแตน นอกจากนี้ ปากีสถานยินดีที่ได้เรียนรู้ประสบการณ์ในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-๑๙ จากจีน และร่วมกันปราบโรคระบาด โดยมั่นใจว่าหลังเอาชนะโรคระบาดแล้ว ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างปากีสถานกับจีนย่อมจะพัฒนาไปด้วยดียิ่งขึ้น

๓. ข้อสังเกตเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับปากีสถาน
     ๓.๑ เมื่อวันที่ ๘ ต.ค.๖๒ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้พบปะเจรจากับนายอิมรัม อาห์เม็ด คาน เนียซี นายกรัฐมนตรีปากีสถาน ที่กรุงปักกิ่ง และได้เป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือแบบทวิภาคีระหว่างจีนกับปากีสถาน เช่น ด้านการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายด้านความมั่นคง วัฒนธรรม การศึกษาและสื่อมวลชน เป็นต้น  
     ๓.๒ เมื่อต้นเดือน ก.พ.๖๓ ที่ผ่านมา ปากีสถานได้ออกมาประกาศภาวะฉุกเฉินหลังฝูงตั้กแตนจำนวนมากบุกเข้าสู่ตัวเมืองจนกลายเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ ๒๐ ปี และสหประชาชาติถึงกับออกมาประกาศขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ เพราะทำพืชผลเศรฐกิจเสียหาย ซึ่งทางรัฐบาลจีนได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปยังปากีสถาน นำโดยนาย หลู หลี่จื้อ นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรมณฑลเจ้อเจียงของจีน เพื่อพัฒนาแผนปราบตั๊กแตนให้ตรงจุด และในเบื้องต้นได้เสนอมาตรการโดยการใช้เป็ดกำจัดตั๊กแตน ที่น่าจะได้ผลกว่าการใช้ยาฆ่าแมลง เพราะเป็ด ๑ ตัวสามารถกินตั๊กแตนได้มากกว่า ๒๐๐ ตัวต่อวัน รวมทั้งเป็ดยังชอบรวมอยู่กันเป็นฝูงทำให้ง่ายต่อการจัดการ เป็นต้น

บทสรุป
 
ปากีสถานซึ่งกำลังให้ความสำคัญต่อการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษภายใต้กรอบระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน เนื่องจากจะมีส่วนช่วยให้ธุรกิจในท้องถิ่นของปากีสถานเติบโตก้าวหน้า และสร้างโอกาสการทำงานให้กับคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือแบบทวิภาคีระหว่างจีนกับปากีสถาน เมื่อวันที่ ๘ ต.ค.๖๒ ทำให้จีนได้ให้ความช่วยเหลือปากีสถานในการก่อสร้างระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถานและโครงการนิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ รวมทั้งความช่วยเหลือในการปราบภัยตั้กแตน ในขณะที่ปากีสถานก็ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนจีนจากวิกฤติของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-๑๙ อย่างทันท่วงที จึงส่งผลต่อการยกระดับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสองให้เพิ่มมากขึ้น

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์