bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันเสาร์ที่ ๒๓ พ.ค.๖๓ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานกรรมาธิการทหารกลาง ได้เข้าร่วมการประชุมประจำปีสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ ๑๓ ครั้งที่ ๓

จีนศึกษา วันเสาร์ที่ ๒๓ พ.ค.๖๓ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานกรรมาธิการทหารกลาง ได้เข้าร่วมการประชุมประจำปีสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ ๑๓ ครั้งที่ ๓ (十三届全国人大三次会议the Third Session of the 13th National People's Congress : NPC) โดยมีผู้แทนประชาชนทั่วประเทศจีนจำนวน ๒,๘๙๗ คน (จากยอดเต็ม ๒,๙๕๖ คน) เข้าร่วมในการเปิดประชุมเมื่อวันที่ ๒๒ พ.ค.๖๓ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. การประชุมประจำปีสภาผู้แทนประชาชนทั่วประเทศ โดยปกติจะกำหนดในช่วงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี แต่เนื่องจากปีนี้ ได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ จึงเลื่อนเวลาการจัดประชุมมาในเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นครั้งแรกในช่วง ๒๒ ปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อนเริ่มการประชุมฯ  ผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมได้ไว้อาลัยแก่ผู้พลีชีพและผู้เสียชีวิตในโควิด-๑๙ ต่อจากนั้น นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวรายงานว่าด้วยกิจการงานรัฐบาลในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา  รวมทั้งข้อเสนอเกี่ยวกับกิจการงานในปีนี้ เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณา นอกจากนี้ ในการประชุมปีนี้ยังมีวาระร่างกฎหมายสองวาระ ได้แก่ การพิจารณร่างกฎหมายหมวดกฎหมายแพ่งจีน และร่างมติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์และแก้ไขเพิ่มเติมกลไกทางกฎหมายและกลไกทางการปฎิบัติการเพื่อพิทักษ์ความมั่นคงของประเทศในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงด้วย

๒. นายหลี่ เค่อเฉียง (李克强Li Keqiang) นายกรัฐมนตรีจีน (中国总理Chinese Premier) กล่าวรายงานว่า
     ๒.๑ ในปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) ที่ผ่านมา ภายใต้สภาพการณ์ที่การพัฒนาต้องเผชิญกับความท้าทายและยากลำบากต่างๆ จีนสามารถบรรลุซึ่งเป้าหมายสำคัญประจำปี ๒๐๑๙ โดยเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างมั่นคง ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการปรับปรุงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้ปูฟื้นฐานสำคัญให้กับการบรรลุซึ่งการสร้างสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้าน โดยยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ประจำปี ๒๐๑๙ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๖.๑ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง ๙๙.๑ ล้านล้านหยวน ขณะที่อัตราการจ้างงานใหม่ในตัวเมืองเป็น ๑๓,๕๒๐,๐๐๐ คน และจำนวนผู้ยากจนในชนบทลดลง ๑๑,๐๙๐,๐๐๐ คน โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวมากกว่า ๓๐,๐๐๐ หยวน
     ๒.๒ สำหรับปี ๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓) รัฐบาลจีนจะเน้นการรักษาเสถียรภาพด้านการมีงานทำ ประกันชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เอาชนะอุปสรรคการหลุดพ้นจากภาวะยากจน พยายามบรรลุเป้าหมายสร้างสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้านให้ได้ โดยเฉพาะได้ระบุเป้าหมายในปีนี้ไว้อย่างชัดเจน ถึงเรื่องการว่าจ้างงานในเมืองนั้นจะต้องมีมากกว่า ๙ ล้านคน และอัตราว่างงานในเมืองจะอยู่ที่ประมาณ ๖% แต่เนื่องจากทั่วโลกเผชิญวิกฤตโควิด-๑๙ และมีความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการค้า ทำให้การพัฒนาของจีนต้องเผชิญหน้ากับปัจจัยที่ยากจะคาดการณ์ได้หลายประการ รัฐบาลจีนจึงไม่ได้เสนอเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของปี ๒๐๒๐ ที่ชัดเจน (แต่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการทหารจากปีที่แล้ว ๖.๖% หรือ ๑.๒๗ ล้านล้านหยวน) โดยในรายงานผลการดำเนินงานยังระบุว่า ขอให้ฝ่ายต่างๆ รวมกำลังกันสร้าง สร้าง “๖ หลักประกัน” และ “๖ ความมั่นคง” ซึ่งหลักประกัน ๖ ด้าน ได้แก่ (๑) การมีงานทำและชีวิตความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานของประชาชน (๒) ความปลอดภัยของภาคส่วนที่เป็นเอกเทศของตลาด (๓) ความปลอดภัยด้านธัญญาหารและพลังงาน (๔) ความมั่นคงของห่วงโซ่อุตสาหกรรม (๕) ความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน และ (๖) การดำเนินธุรกิจของสังคมในระดับชุมชนอย่างราบรื่น รวมทั้งการสร้างความมั่นคง ๖ ด้าน ได้แก่ (๑) การจ้างงาน (๒) การเงิน  (๓) การค้าต่างประเทศ (๔) การลงทุนจากต่างประเทศ (๕) การลงทุนภายในประเทศ และ (๖) การคาดการณ์ด้านการตลาด โดยเน้นว่าจะการรักษาความมั่นคงของการดำเนินงานทางเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งจะใช้วิธีการปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอก โดยก้าวไปบนแนวทางที่สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิผล นอกจากนี้ ในรายงานยังเน้นว่า ขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการป้องกันและควบคุมการระบาดภายใต้ภาวะปกติอย่างเคร่งครัดต่อไป และปฏิบัติงานต่างๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมให้ดีต่อเนื่อง

๓. ข้อสังเกต การประชุมประจำปีสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ ๑๓ ครั้งที่ ๓ ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับการประชุมของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน (中国人民政治协商会议 Chinese People's Political Consultative Conference : CPPCC) ที่มีสมาชิก ๒,๑๕๘ คน ทำหน้าที่ให้การปรึกษากิจการการเมืองก่อนดำเนินการพิจารณาหามติในเรื่องต่างๆ รวมทั้งสำรวจตรวจสอบการปฏิบัติการของรัฐธรรมนูญ กฏหมาย และกฏข้อบังคับต่างๆ ของรัฐ ตลอดจนการพิจารณาปัญหาสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ โดยได้เปิดการประชุมเมื่อวันที่ ๒๑ พ.ค.๖๓ (ปกติจะประชุมในช่วงเดือน มี.ค. ของทุกปีเช่นกัน) และจะเรียกการประชุมในช่วงเวลานี้ว่า การประชุมสองสภา (两会 Two Sessions)

บทสรุป

 
การประชุมประจำปีสภาผู้แทนประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยเฉพาะการที่จีนซึ่งมีสถานะทางเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่สองของโลก จะมีมาตรการในการรับมือและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-๑๙ เพื่อที่จะให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่กำหนดไว้ รวมทั้งผลักดันการปฏิรูปและเปิดประเทศได้อย่างต่อเนื่องได้อย่างไร และที่สำคัญในปี ๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓) นี้ เป็นปีที่จะต้องบรรลุภารกิจในการขจัดความยากจนภายในประเทศให้หมดสิ้น และบรรลุซึ่งการสร้างสรรค์สังคมมีกินมีใช้อย่างถ้วนทั่วให้สำเร็จอย่างรอบด้าน ดังนั้น นโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลจีนได้กำหนดและดำเนินการ นอกจากจะเพื่อบรรลุการฟื้นฟูและการพัฒนาของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งผลักดันการขับเคลื่อนการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีนไปสู่อีกขั้นหนึ่งแล้ว ยังจะเป็นการอัดฉีดพลังเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
 
ข้อมูลจากเว็บไซต์