bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันเสาร์ที่ ๒๗ ต.ค.๖๑ : ท่าทีของจีนและญี่ปุ่นต่อการเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการ

ท่าทีของจีนและญี่ปุ่นต่อการเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการของ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๗ ต.ค.๖๑ ตามคำเชิญของนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน โดยทั้งสองได้หารือกันในกำหนดการวันแรก ส่วนวันศุกร์ที่ ๒๖ ต.ค.๖๑ นายชินโซ อาเบะ มีกำหนดประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง โดยเฉพาะแนวทางการปรับปรุงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และการเตรียมรับมือกับมาตรการโจมตีทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. ท่าทีของจีน
        ๑.๑ เมื่อวันที่ ๒๔ ต.ค.๖๑ นางหวา ชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวถึงการที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ได้แสดงท่าทีในทางบวกต่อความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-จีนว่า จีนกับญี่ปุ่นจะต้องสืบช่วงอดีตและบุกเบิกช่องทางในอนาคต เสริมสร้างพื้นฐานทางการเมืองและกฎหมายของความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น ยืนยันความเห็นที่สำคัญร่วมกัน เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือ เขียนแบบแผนแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์หน้าใหม่ ระหว่างสองประเทศในอนาคต ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ กล่าวก่อนหน้าเดินทางมาเยือนจีนว่า การพัฒนาเศรษฐกิจของจีนเป็นโอกาสอันใหญ่หลวงสำหรับญี่ปุ่นและทั่วโลก ญี่ปุ่นกับจีนจะต้องรักษาความร่วมมือเพื่อส่งเสริมระบบการค้าเสรีแบบพหุภาคี รวมถึงองค์การการค้าโลก จึงทำให้โฆษกฯ กระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกมาแสดงการชื่นชมท่าทีของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
        ๑.๒ หากย้อนไปดูเหตุการณ์ เมื่อวันที่ ๒๓ ต.ค.๖๑ ซึ่ง นางหวา ชุนอิ๋ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้กล่าวในที่ประชุมแถลงข่าวว่า การเยือนจีนของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะเป็นผลดีต่อการยกระดับความร่วมมือที่มุ่งไปสู่ความเป็นจริงระหว่างจีนกับญี่ปุ่น และผลักดันความสัมพันธ์สองประเทศให้คืบหน้าไปบนพื้นฐานการกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้เพราะความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าเป็นส่วนประกอบสำคัญของความสัมพันธ์สองประเทศ ปีนี้เป็นวาระครบ ๔๐ ปีการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพและมิตรภาพระหว่างจีนกับญี่ปุ่น และเป็นการครบรอบ ๔๐ ปีนโนบายปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน ซึ่งตลอดช่วง ๔๐ ปีมานี้ วงการเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เข้าร่วมการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีนอย่างแข็งขัน ดำเนินความร่วมมือด้านการลงทุน เศรษฐกิจ และการค้าระหว่างสองประเทศ โดยได้ส่งเสริมการพัฒนาของประเทศ และการพัฒนาความสัมพันธ์ของสองประเทศ นำมาซึ่งประโยชน์แท้จริงระหว่างประชาชนสองประเทศ

๒. ท่าทีของญี่ปุ่น นายโยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นได้คาดหวังว่าการเยือนจีนของนายชินโซ อาเบะ จะผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์สองประเทศ และได้รับผลงานมากมาย โดยการเยือนจีนครั้งนี้ของนายชินโซ อาเบะ นับเป็นการเยือนจีนอย่างเป็นทางการอีกครั้งของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลังจากการเยือนของนายโยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้นเมื่อปี ๒๐๑๑ (พ.ศ.๒๕๕๔) ทั้งนี้ ความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมาก ภายใต้ภูมิหลังดังกล่าวนี้ จึงทำให้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เดินทางเยือนจีนอีกครั้งหลังจากเมื่อ ๗ ปีก่อน ซึ่งย่อมจะผลักดันความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นให้พัฒนาคืบหน้ามากยิ่งขึ้น

๓. ข้อสังเกต เกี่ยวกับพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในรอบปีนี้
        ๓.๑ เมื่อเดือน พ.ค.๖๑ รัฐบาลจีนและญี่ปุ่นได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการที่จีนจะส่งมอบนก นิปโปเนีย นิปปอน (Nipponia nippon) คู่หนึ่งให้แก่ญี่ปุ่น และเมื่อวันที่ ๑๗ ต.ค.๖๑ นกนิปโปเนีย นิปปอนชื่อว่า โหลวโหลวและกวนกวน คู่นี้ถูกส่งไปยังศูนย์อนุรักษ์นกนิปโปเนีย นิปปอนซาโตะของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นทูตพิเศษในการสืบสานไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างประชาชนจีน-ญี่ปุ่น ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อต้นทศวรรษปี ๑๙๘๐ นกนิปโปเนีย นิปปอนใกล้จะสูญพัน์ในญี่ปุ่น โดยเมื่อปี ๑๙๙๘ (พ.ศ.๒๕๔๑) จีนได้มอบนกพันธุ์ดังกล่าวคู่หนึ่งให้กับญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก และทดลองผสมพันธุ์ในศูนย์อนุรักษ์นกนิปโปเนีย นิปปอนซาโตะ ปัจจุบัน ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีนกชนิดนี้จำนวน ๕๕๐ ตัวแล้ว โดยในจำนวนนี้ มี ๓๗๒ ตัวเป็นนกป่า ซึ่งชุมนุมกันอยู่บนเกาะซาโตะ
        ๓.๒ เมื่อวันที่ ๑๑ ส.ค.๖๑ มีการประชุมเสวนาทางวิชาการในโอกาสลงนาม "สนธิสัญญาว่าด้วยสันติภาพและการเป็นมิตรจีน-ญี่ปุ่น" ครบรอบ ๔๐ ปี จัดขึ้นโดยสำนักงานญี่ปุ่นศึกษา ร่วมกับสภาสังคมศาสตร์แห่งประเทศจีนและสมาคมกิจการการต่างประเทศสาธารณะแห่งประเทศจีน ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งมีนักวิชาการและบุคคลจากหลายวงการ ทั้งจีนและญี่ปุ่นกว่า ๑๐๐ คน เข้าร่วมการประชุมและแสดงความคิดเห็น พร้อมข้อเสนอที่เกี่ยวกับการผลักดันความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น ให้กลับคืนสู่ทิศทางการพัฒนาที่ถูกต้อง และส่งเสริมการพัฒนาในระยะยาว ทั้งนี้ เป็นไปตามสนธิสัญญาว่าด้วยสันติภาพและการเป็นมิตรจีน-ญี่ปุ่น ที่ลงนามโดยรัฐบาลทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ ๑๒ ส.ค. ปี ๑๙๗๘ (พ.ศ.๒๕๒๑) ซึ่งเป็น ๑ ใน ๔ เอกสารสำคัญทางการเมืองที่มีบทบาทในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ญี่ปุ่น

บทสรุป

ทิศทางการก้าวเดินไปบนความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นจนนำมาสู่การเดินทางเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๗ ต.ค.๖๑ เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น นับตั้งแต่ที่นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้เดินทางไปเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ ๘ - ๑๑ พ.ค.๖๑ และการที่นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้พบกับนายทาเคโอะ อาคิบะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ที่ทำเนียบรัฐบาลจีนกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ ๒๙ ส.ค.๖๑ โดยทั้งจีนและญี่ปุ่นต่างแสดงท่าทีที่ยินดีต่อการดำเนินความพยายามร่วมกัน เพื่อให้ความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นฟื้นฟูกลับคืนสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะในปีนี้ เป็นวาระครบรอบ ๔๐ ปี ที่จีนและญี่ปุ่นได้ลงนามในข้อตกลงสันติภาพร่วมกัน นอกจากนี้ ทั้งจีนและญี่ปุ่นได้ร่วมมือกันในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมตลาดฝ่ายที่สาม เช่น จะร่วมกันลงทุนในโครงการ EEC ของไทย โดยเฉพาะการเชื่อมโยงรถไฟระหว่าง ๓ สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา ฯลฯ และด้านอื่นๆ เพื่อผลักดันการสร้างประชาคมเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและกระบวนการรวมเป็นหนึ่งเดียวของภูมิภาค เป็นต้น

ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

http://www.chinadaily.com.cn/a/201810/25/WS5bd17194a310eff303284894.html 

http://thai.cri.cn/247/2018/10/25/230s272848.htm 

http://thai.cri.cn/247/2018/10/25/123s272831.htm

http://thai.cri.cn/247/2018/10/24/230s272788.htm 

http://thai.cri.cn/247/2018/10/22/227s272709.htm 

http://thai.cri.cn/247/2018/08/30/226s270624.htm 

https://mgronline.com/japan/detail/961000007604

http://thai.cri.cn/247/2018/08/13/62s269972.htm 

http://www.globaltimes.cn/content/1124428.shtml