bg-head-3

บทความ

จีนศึกษา วันเสาร์ที่ ๒๘ ธ.ค.๖๒ บทบาทของจีนในการเดินหน้าสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ

จีนศึกษา วันเสาร์ที่ ๒๘ ธ.ค.๖๒ ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทของจีนในการเดินหน้าสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. นายเกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้แถลงเมื่อวันที่ ๒๔ ธ.ค.๖๒ สืบเนื่องจากการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจีนเป็นการเฉพาะของนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ที่ได้ทบทวนทิศทางการทูตของจีนในปี ๒๐๑๙ และคาดการณ์เรื่องสำคัญๆ ของการทูตจีนในปี ๒๐๒๐ ว่า ในรอบปีใหม่ที่จะมาถึง จีนประสงค์จะร่วมมือกับประชาคมโลก ก้าวย่างไปด้วยกันท่ามกลางลมฝน และร่วมเดินหน้าสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติต่อไป ในขณะที่สถานการณ์ระหว่างประเทศมีความผันผวน เศรษฐกิจโลกซบเซา ระบบการบริหารโลกติดขัด การทูตจีนได้ประสบผลคืบหน้าสำคัญประการต่างๆ ด้วยจิตใจอันมุ่งมั่นและการหาทางจัดการอย่างสุดความพยายาม ภายใต้การนำที่เข้มแข็งของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ที่มีนายสี จิ้นผิงเป็นศูนย์กลาง

๒. ผลจากการอภิปรายเรื่อง “การพัฒนาของจีนและประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน” ที่ได้จัดขึ้นในเวทีการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจนานาชาติหงเฉียวครั้งที่ ๒ ที่นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ ๖ พ.ย.๖๒ โดยได้มีการแบ่งกลุ่มอภิปรายเกี่ยวกับ ๗ ประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินทางการทูตของจีน ได้แก่ (๑) การแสวงหาช่องทางสู่ความทันสมัยที่หลากหลาย (๒) จีนกับกระบวนการในโลกยุคใหม่ (๓) การเติบโตของเศรษฐกิจกับการพัฒนาอย่างกลมกลืน (๔) ความร่วมมือที่เปิดกว้าง การเจรจาทางอารยธรรม (๕) การร่วมหารือ ร่วมสร้างสรรค์ ร่วมแบ่งปันกับการบริหารทั่วโลก (๖) การเปรียบเทียบการช่วยเหลือผู้ยากจนและขจัดความยากจนของจีนกับต่างประเทศ และ (๗) อารยธรรมทางนิเวศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

๓. ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย.๖๒ รัฐบาลจีนได้ออกสมุดปกขาวเรื่อง “จีนมีความรับผิดชอบสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันด้านความมั่นคงนิวเคลียร์” โดยเน้นว่า
     ๓.๑ ความมั่นคงทางนิวเคลียร์นั้นไร้พรมแดน และการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติก็เป็นความต้องการร่วมกันของมวลมนุษย์ ดังนั้น การประกันความมั่นคงทางนิวเคลียร์เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกชาติ ซึ่งจีนจะทำหน้าที่รับผิดชอบในฐานะประเทศใหญ่ต่อไป โดยจะอุทิศกำลังที่มีเพื่อยกระดับความมั่นคงทางนิวเคลียร์ของโลกให้สูงขึ้น ตลอดจนสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์
    ๓.๒ ในรอบ ๗๐ ปีที่ผ่านมา นิวเคลียร์ในประเทศจีน เริ่มต้นจากไม่มี จนมีและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นระบบอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ที่สมบูรณ์แบบ สร้างคุณูปการสำคัญแก่การอนุรักษ์ระบบนิเวศ ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจให้มีคุณภาพ จากอดีตจีนถือการรักษาความปลอดภัยของนิวเคลียร์เป็นหน้าที่แห่งรัฐ คู่ขนานกับการประยุกต์ใช้พลังงานนิวเคลียร์ ความปลอดภัยเป็นเงื่อนไขเบื้องต้น ต้องบริหารตามมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุด สอดคล้องกับข้อบังคับในการพัฒนานิวเคลียร์ ผลักดันการรักษาความปลอดภัยของนิวเคลียร์ควบคู่ไปกับความทันสมัยในทุกด้าน มีสถิติความปลอดภัยที่ดีและเป็นหนทางความปลอดภัยที่มีเอกลักษณ์เป็นของจีนเอง
     ๓.๓ จีนรักษาสถิติความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์อย่างดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดัชนีการทำงานของไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์อยู่แนวหน้าของโลก ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์เพิ่มมากขึ้น การควบคุมดูแลแร่ธาตุสำหรับการผลิตนิวเคลียร์มีหลักประกัน สามารถคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งในสมุดปกขาวชี้ว่า ปี ๒๐๐๐ ปี ๒๐๐๔ ปี ๒๐๑๐ และปี ๒๐๑๖ องค์กรพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศเคยมีการตรวจสอบและประเมินความปลอดภัยและรังสีนิวเคลียร์ โดยยืนยันว่าจีนสามารถควบคุมความปลอดภัยของนิวเคลียร์ นอกจากนี้ จีนยังคงยืนหยัดการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดและมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุดในการกำเนิดไฟฟ้าด้วยพลังงานนิวเคลียร์ ปฏิบัติงานอย่างเข้มงวดในการเลือกสถานที่ ออกแบบ ก่อสร้าง ทำงานและยกเลิกการใช้งานตามหลักประกันด้วยวิธีหลายวิธีและป้องกันอย่างเข้มงวด เพื่อให้มีความปลอดภัยและไม่เกิดข้อผิดพลาด  

บทสรุป

หลายปีที่ผ่านมาการพัฒนาของจีนอยู่ในช่วงบุกเบิกยุคสมัย โดยจีนกำลังยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งขึ้น จนอาจกล่าวได้ว่า จึนในยุคปัจจุบันไม่ใช่ประเทศที่ลอกเลียนแบบเทคโนโลยีจากประเทศอื่นๆ แต่จีนมีความสามารถในด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะสร้างความมั่นคงและมั่งคั่ง  ซึ่งได้ทำให้จีนมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงนั้นย่อมจะส่งผลกระทบไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก และทำให้ทุกประเทศต้องปรับตัวเพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยเฉพาะการยอมรับต่อบทบาทของจีนในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ  

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล


ข้อมูลจากเว็บไซต์ 

http://www.chinaembassy.org.nz/eng/mfasr/t1727490.htm 

http://thai.cri.cn/20191225/d02dfa76-8c07-9c26-9ff9-f87852bee2ff.html 

http://thai.cri.cn/20191107/ea62cc3e-a202-768f-5383-bd77695350ed.html 

http://thai.cri.cn/20190904/816018b4-dcaa-b76e-fe89-29ae58419dd4.html 

http://thai.cri.cn/20190903/478e96aa-6db1-f18f-815a-45d1d7b571aa.html 

http://thai.cri.cn/20190903/74af171c-a2ab-396e-286f-6f784ec337c2.html