ท่าทีความเคลื่อนไหวของจีนและสหรัฐฯ จากการที่ทั้งสองประเทศได้ประลองกำลังทางเศรษฐกิจและการค้ากันมาเป็นเวลากว่า ๔ เดือน ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ความเคลื่อนไหวล่าสุด โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลา ๒ – ๓ วันนี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากกระแสข่าวที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ กับนายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีน กำลังจัดการเจรจาทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน อย่างลับๆ
๒. แนวโน้มของสถานการณ์ จากการประเมินของนักวิเคราะห์ว่า ท่าทีของสหรัฐฯ จะยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะเก็บภาษีเพิ่มอีก ๑๖,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีน นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาจะเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา ๒๕ % ต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีนมูลค่า ๒๐๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าอัตรา ๑๐% ที่สหรัฐฯ ได้ประกาศก่อนหน้านี้
๓. ข้อสังเกต
๓.๑ ท่าทีของจีน เมื่อวันที่ ๒๕ ก.ค.๖๑ นายเกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวที่งานแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งว่า ในสงครามการค้าไม่มีผู้ชนะ สหรัฐฯ ก่อสงครามขึ้นมา จะส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นและต่อสหรัฐฯ เอง ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศจะจัดเงินอุดหนุนเกษตรกรสหรัฐฯ เป็นจำนวน ๑๒,๐๐๐ ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เพื่อชดใช้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ทั้งนี้ จีนหวังว่าสหรัฐฯ จะรับฟังเสียงจากวงการต่างๆ ภายในประเทศ และรับฟังเสียงจากประชาคมโลก รวมทั้งพิจารณาสถานการณ์และคำนึงถึงผลได้ผลเสีย โดยจะไม่เดินบนหนทางที่ผิดอีกต่อไป
๓.๒ ท่าทีของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ ๒๕ ก.ค.๖๑ นาย ลาร์รี คูดลอฟ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจทำเนียบขาวสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่า จีนไม่อยากเจรจาเรื่องการค้า และไม่อยากเล่นเกมต่อไป จึงเป็นฝ่ายที่ควรต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ ตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ประเทศสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) ถ้าเกิดข้อขัดแย้งกันขึ้น ควรจัดการภายใต้กลไกการแก้ไขข้อขัดแย้งของ WTO แต่ปัจจุบัน สหรัฐฯ มุ่งหมายทำให้ "ศาลสูงสุด" ของ WTO ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ละทิ้งหรือทำลาย WTO โดยเจตนา หันมาใช้วิธีแก้ไขข้อพิพาททางการค้าด้วยการเจรจาทวิภาคี เพราะสหรัฐฯ เชื่อมั่นว่า การเจรจาระหว่างสองฝ่ายนั้น สหรัฐฯ ย่อมจะเอาชนะได้
บทสรุป
ท่าทีของจีนหลังจากการประเมินท่าทีของสหรัฐฯ ที่กระทำเหมือนเล่นกลกลับไปกลับมา โดยด้านหนึ่งทำทีว่าจะเปิดการเจรจากับจีน แต่ในอีกด้านหนึ่งกลับเตรียมการที่จะเก็บภาษีต่อสินค้าจีนมากยิ่งขึ้น อันเป็นการแสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ ไม่มีความจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ และคิดใช้วิธีเล่นกลกลับไปกลับมา เพื่อให้สร้างความได้เปรียบมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวของสหรัฐฯ ไม่ได้อยู่นอกเหนือจากการคาดหมายของจีน ซึ่งไม่ว่าสหรัฐฯ จะเก็บภาษีต่อสินค้าจีนมูลค่า ๑๖,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือมูลค่า ๒๐๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไม่ว่าสหรัฐฯ จะใช้อัตราภาษีศุลกากร ๒๕% หรือ ๑๐% ก็ตาม จีนได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือ โดยจะใช้มาตรการทั้งด้านปริมาณและคุณภาพตอบกลับอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ดังนั้น จึงต้องติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของการประลองกำลังทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดต่อไป
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
https://www.farmfutures.com/trade/trump-threatens-higher-tariffs-china
http://thai.cri.cn/247/2018/08/02/227s269676.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/07/26/63s269429.htm
https://www.pymnts.com/news/regulation/2018/trump-trade-policy-chinese-imports-tariffs/
https://www.ajot.com/news/china-slams-u.s-ablackmailinga-as-trump-weighs-higher-tariffs