ความเคลื่อนไหวในการประชุมสองสภา (ตอนที่ ๗) ว่าด้วยกรณีที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เยี่ยมพบปะกับคณะสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจากมณฑลกานซู่ ในระหว่างประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีน ชุดที่ ๑๓ ครั้งที่ ๒ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. เมื่อช่วงบ่ายวันที่ ๗ มี.ค.๖๒ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานกรรมาธิการทหารกลาง ได้เข้าร่วมการประชุมพิจารณาตรวจสอบของคณะสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ ๑๓ ครั้งที่ ๒ จากมณฑลกานซู่ เพื่อการช่วยเหลือผู้ยากจน ทั้งนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำว่า “งานแก้ไขปัญหาความยากจนทำได้ดีมาก แต่ปัจจุบันมีเวลาเหลือแค่ ๒ ปีสำหรับการบรรลุเป้าหมายการขจัดความยากจนโดยสิ้นเชิงก่อนปี ๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓) ซึ่งเป็นช่วงที่ลำบากและยากที่สุด โดยต้องใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละไปจนถึงได้รับชัยชนะอย่างรอบด้าน"
๒. แม้ว่าในระยะปีหลังๆ นี้ จำนวนประชากรผู้ยากจนของมณฑลกันซู่ลดลงจาก ๒.๕๖ ล้านคนของปี ๒๐๑๖ (พ.ศ.๒๕๕๙) เหลือกว่า ๑ ล้านคนในปัจจุบัน โดยรายได้เฉลี่ยของประชากรผู้ยากจนมีประมาณ ๕,๓๙๐ หยวนก็ตาม แต่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวกับสมาชิกสภาฯ จากมณฑลกานซู่ว่า การแก้ไขปัญหาความยากจนต้องยืนหยัดทิศทางที่ถูกต้อง ผลสำเร็จด้านการแก้ไขความยากจนต้องผ่านการทดสอบของประวัติศาสตร์ เรื่องนี้จะใจร้อนไม่ได้ และยิ่งไม่ควรสร้างผลงานการบริหารที่เป็นเท็จ เพราะว่าปัญหาเหล่านี้เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของจีน ทำให้เกิดความสูญเสียที่เป็นบทเรียนอย่างยิ่งยวดมาแล้ว
๓. ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นย้ำเกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินงานเพื่อแก้ไขความยากจนของรัฐบาลท้องถิ่นว่า
๓.๑ ต้องมีความมั่นใจอย่างไม่ลดละเช่นกัน มีความตั้งมั่นที่จะบรรลุสู่เป้าหมาย แก้ไขปัญหาอย่างไม่อ่อนข้อ ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างไม่ท้อแท้ ต้องทำงานอย่างขยันขันแข็งและเอาจริงเอาจัง
๓.๒ มาตรฐานของการพ้นจากความยากจนก็คือ ประชากรผู้ยากจนมีความเป็นอยู่ที่พอกินพอใช้ ได้รับการศึกษาขั้นบังคับ ได้รับการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน มีบ้านพักที่อยู่อาศัย การแก้ไขปัญหาความยากจน ต้องดำเนินการตามสภาพที่เป็นจริง แม้จำเป็นต้องยกมาตรฐานให้สูงขึ้น แต่ก็ห้ามทำปลอมในเรื่องนี้ และยิ่งไม่สามารถลดมาตรฐานให้ต่ำลงด้วย
๔. ข้อสังเกต “เมืองติ้งซี” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเขตที่มีประชากรผู้ยากจนจำนวนมากที่สุดของมณฑลกานซู่ และเป็นเขตที่มีภาระหน้าที่แก้ไขปัญหาความยากจนที่หนักหนาที่สุด โดยก่อนถึงวันตรุษจีนในปี ๒๐๑๓ (พ.ศ.๒๕๕๖) ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เคยเดินทางไปยังพื้นที่ชนบทที่ยากจนของเมืองติ้งซี และพูดคุยกับประชาชนท้องถิ่น เพื่อเข้าใจสภาพที่เป็นจริง โดยในขณะที่ตรวจสอบรายงานรัฐบาลของปีนี้ นายถัง เสี่ยวหมิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองติ้งซี ได้กล่าวรายงานต่อประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ว่า ช่วง ๖ ปีที่ผ่านมา เมืองติ้งซีมีประชากรผู้ยากจนลดลงกว่า ๖๐๐,๐๐๐ คน หมู่บ้านหยวนกู่ตุยที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เคยเดินทางไปเยี่ยมเยียนเมื่อหลายปีก่อนนั้น ปัจจุบันได้พ้นจากความยากจนทั่วทั้งหมู่บ้านแล้ว
บทสรุป
แม้ว่ามาตรการในการช่วยเหลือผู้ยากจนจะดำเนินไปอย่างเป็นรูปธรรมดังกรณีของมณฑลการซู่ก็ตาม แต่ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ก็ยังได้ชี้แนะว่า ต้องให้ความสำคัญต่อเสียงที่ประชาชนสะท้อนออกมา อย่างเช่น เป็นเพียงภาพความสำเร็จจอมปลอมระหว่างการแก้ไขความยากจนหรือไม่ เป็นต้น โดยควรยกระดับคุณภาพด้านการแก้ไขปัญหาความยากจนให้สูงขึ้น ซึ่ง นายถัง เสี่ยวหมิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองติ้งซี ในมณฑลการซู่ ได้ขานรับต่อเรื่องดังกล่าวนี้ โดยยึดถือเป็นคำเตือนสำหรับข้าราชการท้องถิ่นว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะจัดการกับปัญหาการสร้างภาพความสำเร็จจอมปลอมต่อการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเด็ดขาด และจะถูกดำเนินการแบบไม่มีการอ่อนข้อด้วย
ประมวลโดย : พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://thai.cri.cn/20190307/7c4165bd-88ff-2afe-cb22-ceb35caf7bdb.html