จีนศึกษา วันจันทร์ที่ ๑๖ เม.ย.๖๑ : ท่าทีของจีนที่เรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับกรณีซีเรีย

สำหรับท่าทีของจีนที่เรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับกรณีซีเรีย หันกลับมาปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาหารือเท่านั้น ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. สำนักข่าวซินหวารายงานว่า หวา ชุนอิ๋ง โฆษกประจำกระทรวงต่างประเทศของจีน ออกมาแถลงหลังสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส จับมือโจมตีซีเรีย โดยระบุว่าจีนคัดค้านการใช้กำลังในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และกระตุ้นให้เคารพอำนาจอธิปไตย เอกราช และบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศอื่น และเรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกลับเข้าสู่กรอบการปฏิบัติงานตามกฎหมายระหว่างประเทศ และแก้ไขประเด็นปัญหาด้วยการเจรจาหารือ ๑.๑ การปฏิบัติการทางทหารที่เกิดขึ้นนอกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้ขัดแย้งกับวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ ฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงทำให้ปัญหาซับซ้อนยิ่งขึ้น
๑.๒ กรณีที่ทั้งสามประเทศกล่าวว่าการโจมตีมีขึ้นเพื่อตอบโต้ข้อสงสัยการใช้อาวุธเคมีในซีเรียนั้น จีนเชื่อมั่นว่าควรดำเนินการสอบสวนอย่างรอบด้านและเป็นธรรม เพื่อหาข้อสรุปอันเชื่อถือได้และมีเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เสียก่อน ไม่ควรมีการตัดสินล่วงหน้าไปก่อน
๑.๓ จีนเชื่อว่าการเจรจาหาทางออกเป็นวิธีการเดียวที่ได้ผล ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรเดินหน้าสนับสนุนบทบาทของสหประชาชาติ (UN) ให้เป็นช่องทางหลักในการไกล่เกลี่ยและสร้างแนวทางสู่การบรรลุข้อตกลงในการแก้ไขปัญหาซีเรีย

๒. ย้อนรอยดูท่าทีของจีนต่อสถานการณ์ในซีเรีย เมื่อปีที่แล้วในช่วงเดือน ก.ย.๖๐ โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน (หวา ชุนอิ๋ง) ได้ประกาศในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ ๑๕ ก.ย.๖๐ ว่า จีนยืนหยัดการแก้ไขปัญหาซีเรียด้วยวิถีทางการเมืองมาโดยตลอด และการใช้วิถีทางการเมืองเป็นหนทางทางเดียวในการแก้ไขปัญหาซีเรีย ซึ่งเมื่อวันที่ ๑๔ ก.ย.๖๐ หัวหน้าคณะผู้แทนรัสเซียที่ร่วมการประชุมว่าด้วยปัญหาซีเรีย ณ กรุงอัสตานา ประกาศว่า จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ และเลบานอน อาจจะเป็นประเทศสังเกตการณ์ของการประชุมว่าด้วยปัญหาซีเรีย ณ กรุงอัสตานา และจีนจะร่วมการเจรจารอบต่อไปในเดือน พ.ย.๖๐ ซึ่งมีเป้าหมายให้การสนับสนุนการหยุดยิงของซีเรีย ตลอดจนการแก้ไขปัญหาซีเรียด้วยวิถีทางการเมือง

๓. ข้อสังเกต
๓.๑ วุฒิสมาชิกจอห์น แมคเคน จากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า การโจมตีทางอากาศเพียงอย่างเดียวที่ไม่เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ภาพกว้าง จะไม่สามารถทำให้สหรัฐบรรลุเป้าหมายในการยุติสงครามในตะวันออกกลาง
๓.๒ เดนนิส รอส อดีตที่ปรึกษาด้านตะวันออกกลางในสมัยแรกของประธานาธิบดีบารัก โอบามา บอกว่า การโจมตีครั้งนี้แทบจะมีผลน้อยมากต่อสถานการณ์โดยรวมของซีเรีย

บทสรุป

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ อ้างความสำเร็จในการโจมตีสั่งสอนซีเรีย เพื่อตอบโต้ที่มีการใช้อาวุธเคมีทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายในเมืองดูมาของซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ทั้งสหรัฐและชาติพันธมิตรต่างกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือซีเรีย แต่นักวิเคราะห์เห็นว่า การโจมตีของสหรัฐฯ เหมือนการโจมตีในปีที่แล้วและจากไปโดยไม่มียุทธศาสตร์อะไรที่จะช่วยยุติปัญหาในซีเรียซึ่งยืดเยื้อมากว่า ๗ ปี ทั้งๆ ที่เมื่อวันที่ ๓๐ มี.ค.๖๑ ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศเตรียมถอนทหารออกจากซีเรีย เพื่อปล่อยให้ชาติอื่นจัดการไป จนมีเสียงคัดค้านจนทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ยอมกลับลำและสั่งปฏิบัติการโจมตีซีเรีย ในขณะที่จีนได้แสดงท่าทีโดยเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างยุติธรรมและเปิดเผย บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ถึงเหตุการณฺ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เกิดจากการคาดการณ์ อันเป็นการแสดงท่าทียับยั้งความเคลื่อนไหวของสหรัฐและโลกตะวันตกที่ขู่ว่าจะใช้มาตรการตอบโต้ที่สาสมต่อการใช้อาวุธเคมีกับพลเรือน ซึ่งเห็นชัดว่าตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่ากองทัพซีเรียเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยยังไม่มีการพิสูจน์ใดๆ ทั้งนี้จีนเห็นว่า สถานการณ์ในซีเรียจะต้องหาทางออกด้วยแนวทางทางการเมือง และจีนได้ยืนยันตลอดมาว่าข้อขัดแย้งต่างๆ ควรมีทางออกโดยสันติ ซึ่งจีนยังคงคัดค้านการใช้กำลังหรือการขู่ว่าจะใช้กำลัง เช่นเดียวกับท่าทีของจีนเมื่อปีที่แล้ว

ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้อมูลจากเว็บไซต์

http://www.xinhuanet.com/english/2018-04/14/c_137111234.htm

https://mgronline.com/china/detail/9610000037168

https://www.msn.com/th-th/video/watch/ทรัมป์-โวภารกิจลุล่วง-แต่สงครามซีเรียไร้แววยุติ/vp-AAvTr6E

บทความ