นโยบายทางยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (One Belt, One Road หรือ Belt and Road Initiative) เพื่อสร้างรูปแบบความร่วมมือระหว่างประเทศ มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีน ได้จัดการประชุมการค้าและการลงทุน "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ขึ้นที่กรุงปักกิ่ง เมื่อช่วงกลางเดือน เม.ย.๖๑ โดยสรุปว่า
๑.๑ จากปี ๒๐๑๓ (พ.ศ.๒๕๕๖) ถึงปี ๒๐๑๗ (พ.ศ.๒๕๖๐) มูลค่าการค้าสินค้ารวมแล้วสูงถึงกว่า ๕ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศมากกว่า ๗๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์
๑.๒ บริษัทจีนได้ส่งเสริมการสร้างเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ๗๕ แห่งในประเทศหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง รวมทั้งได้จ่ายเงินภาษีให้ประเทศเจ้าภาพ ๒,๒๐๐ ล้านดอลลาร์ และสร้างโอกาสการมีงานทำให้กับ ๒๑๐,๐๐๐ คน
๒. ช่วงปลายเดือน เม.ย.๖๑ มหาวิทยาลัยการเงินการคลังส่วนกลางจีน และสำนักพิมพ์หนังสือด้านวิทยาศาสตร์และสังคมของประเทศจีน ได้เผยแพร่หนังสือปกน้ำเงิน ว่าด้วยความร่วมมือภาครัฐและเอกชน หรือ PPP ปี ๒๐๑๗ - ๒๐๑๘ (พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๑) ระบุว่า
๒.๑ รูปแบบความร่วมมือแบบ PPP จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศรายทาง "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง"
๒.๒ หากมองในภาพรวมแล้ว สภาพการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศรายทาง "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" ยังไม่ค่อยดีเท่าใดนัก โดยบางประเทศที่พัฒนาไปเชื่องช้าจำเป็นอย่างยิ่งในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานมานานแล้ว จึงต้องการซ่อมแซมหรือสร้างใหม่เพิ่มเติม อาศัยเพียงระบบการคลังของรัฐบาลไม่สามารถขจัดช่องว่างด้านเงินทุน จึงต้องอาศัยการลงทุนจากเอกชนมามีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง
๓. ข้อสังเกต มีการวิเคราะห์ว่า นโยบายยุทธศาสตร์ความริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" ได้รับผลสำเร็จที่อุดมสมบูรณ์ และจะสร้างให้กลายเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือระหว่างประเทศที่กว้างขวางที่สุด ที่สอดคล้องกับแนวโน้มโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องรองรับต่อแนวคิดของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่กล่าวกล่าวในที่ประชุมเอเชียโป๋อ๋าว เมื่อวันที่ ๑๐ เม.ย.๖๑ ว่า ตั้งแต่ ๕ ปีก่อน ที่ได้เสนอความริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" ปัจจุบัน มีประเทศและองค์กรระหว่างประเทศกว่า ๘๐ แห่ง ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วย"หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" กับประเทศจีนแล้ว ในการสร้างสรรค์โครงการ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" นี้ โดยประเทศจีนยินดีต้อนรับทุกฝ่ายเข้าร่วม และไม่เคยทำการค้าขายโดยใช้อำนาจเหนือประเทศอื่น ซึ่งทุกฝ่ายจำเป็นต้องยึดหลักการปรึกษาหารือร่วมกัน สร้างสรรค์ร่วมกัน และแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน สร้างสรรค์โครงการ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" ให้กลายเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศ
บทสรุป
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นย้ำหลักการปรึกษาหารือร่วมกัน สร้างสรรค์ร่วมกัน และแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อสร้างสรรค์ให้โครงการความริเริ่ม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" กลายเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ดังเช่น กรณีการเชื่อมโยงกันในด้านเครือข่ายจ่ายไฟฟ้า การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำของบรรดาประเทศรายทาง "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" เป็นต้น
ประมวลโดย : พันเอกไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
ข้อมูลจากเว็บไซต์
http://thai.cri.cn/247/2018/04/13/302s266251.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/04/27/62s266649.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/03/29/62s265755.htm
http://thai.cri.cn/247/2018/04/10/301s266146.htm