นายไพศาล พืชมงคล เลขาธิการ สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนเมื่อบ่ายวานนี้ว่า สมาคมฯ ได้ช่วยประสานงานให้สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็นตกลงทำความร่วมมือส่งออกนมผงและข้าวหอมมะลิไปยังประเทศจีน และจะร่วมมือด้านการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ต่อไปด้วย
นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่านายพินิจ จารุสมบัติ นายกสมาคมฯ ได้ให้นโยบายในการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในการร่วมมือกับหน่วยงานและภาคเอกชนของประเทศจีน ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติสำคัญประการหนึ่งของสมาคมฯ ในปัจจุบันนี้ ต่อมานายเสนาะ เทียนทอง ประธานพรรคเพื่อไทย ได้หารือกับสำนักเลขาธิการสมาคมฯ เพื่อให้ช่วยเหลือสนับสนุนกิจการสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็นในการร่วมมือกับภาคธุรกิจของประเทศจีน ซึ่งสมาคมฯ ได้มีการประสานงานให้มีการพบปะระหว่างกันไปครั้งหนึ่งแล้วเพื่อสำรวจความต้องการของกันและกัน และล่าสุดนักธุรกิจจีนก็ได้เดินทางมาเจรจาในขั้นที่สอง ที่สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว
นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่าผลการเจรจาความร่วมมือระหว่างคณะผู้บริหารสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็นกับนักธุรกิจจีนเมื่อวานนี้ได้กำหนดกรอบข้อตกลงกันหลายประการ โดยสรุปคือ
ข้อแรก ภาคธุรกิจจีนจะนำเข้านมผงที่ผลิตโดยสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น ซึ่งเป็นสหกรณ์โคนมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เข้าไปยังประเทศจีน เบื้องต้นปีละ 10,000 ตัน โดยจะเริ่มส่งออกได้ทันทีที่โรงงานนมผงแล้วเสร็จในอีก 8 เดือนข้างหน้า โดยการชำระเงินและการตกลงราคาจะกำหนดเป็นคราว ๆ ตามภาวะตลาด
ข้อสอง ภาคธุรกิจจีนจะนำเข้าข้าวหอมมะลิที่รวบรวมโดยสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น ไปยังประเทศจีน โดยเฉลี่ยวันละ 2 ตัน หรือปีละประมาณ 730 ตัน โดยกำหนดราคาเป็นคราว ๆ ตามภาวะตลาด และจะเริ่มดำเนินการได้ทันทีที่สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็นมีความพร้อม
ข้อสาม ภาคธุรกิจจีนซึ่งมีกิจการผลิตและจำหน่ายระบบโซล่าเซลล์ร่วมกับภาครัฐของจีน จะสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าด้วยระบบโซล่าเซลล์ให้กับสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น ตามใบอนุญาตจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตขนาด 10 เมกกะวัตต์ โดยจะลงทุนเป็น 2 เฟส ๆ ละ 5 เมกกะวัตต์ โดยเฟสแรกสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็นต้องจัดหาแหล่งเงินเอง สำหรับเฟสที่สอสฝ่ายจีนจะจัดหาแหล่งเงินกู้ให้กับสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น และเพื่อให้การดำเนินงานมีความคืบหน้าโดยเร็ว ฝ่ายจีนได้เชิญคณะผู้แทนและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของฝ่ายไทยเดินทางไปดูงานที่มหานครเซี่ยงไฮ้ระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2554
ข้อสี่ เนื่องจากผู้บริหารสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็นเป็นประธานโครงการ OTOP ในพื้นที่หลายจังหวัด และภาคธุรกิจจีนก็มีเครือข่ายห้างสรรพสินค้าถึง 8,000 แห่งในประเทศจีน ทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมมือกันเพื่อส่งผลิตภัณฑ์ OTOP ไปยังประเทศจีน เพื่อจัดจำหน่ายในเครือข่ายห้างสรรพสินค้าของฝ่ายจีน โดยทั้งสองฝ่ายจะได้ตั้งคณะผู้แทนปรึกษาหารือกันในรายละเอียดเป็นจังหวะก้าวต่อไป โดยในส่วนสมาคมฯ ก็จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารด้านเศรษฐกิจที่จะรับดำเนินงานต่อไป.