การลงนาม MOU ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) กับ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) เพื่อ "มั่นหมาย" พัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ร่วมกัน เป็นยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของไทย และยุทธศาสตร์ทาง "สายไหม" ของจีน ภายใต้แคมเปญ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" หรือ One Belt One Road
เบื้องหลังไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ที่เป็น "มหามิตร" โดยตรง หรือ "ฮ่องกง" เป็นหัวหอก ผ่านการเดินสาย "โรดโชว์" ของ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี เพื่อ "ขายของ" หอบ "สิทธิประโยชน์" เชื้อเชิญนักลงทุนจากทั่วสารทิศ มาปักหมุด-วางฐานการผลิตในไทย
นอกเหนือผลตอบแทนทางธุรกิจที่ "จับต้องได้" แล้ว ภายใต้ "วิถีแห่งตะวันออก" คือ มิตร-สหาย และ "Connection" การเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ระหว่างวันที่ 26 เม.ย.-29 เม.ย. 60 ที่ผ่านมา จึงเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ระหว่าง "สมคิด" กับ "สหายใหม่" ทั้ง "วินเซนต์ โล" ประธาน HKTDC ที่นายสมคิดใช้คำว่าเป็น "เพื่อนใหม่" รวมถึง "แคร์รี แลม" ว่าที่ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
ตั้งแต่นายสมคิดเข้ามาร่วมหัวจมท้ายพร้อมกับ คสช.-รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางเหยียบ "แผ่นดินมังกร" ทั้งในนามที่ปรึกษา คสช. ควงคู่ "พล.อ.ประวิตร" เดินทางไปปักกิ่ง ก่อนจะมานั่งเก้าอี้ "รองนายกฯ แม่ทัพเศรษฐกิจ" เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 58
เดือนพฤษภาคม 59 นายสมคิดได้พบกับ "หาน เจิ้ง" เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์นครเซี่ยงไฮ้และสมาชิกคณะกรรมการการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในโอกาสเยือนไทย ระหว่างวันที่ 10-11 พ.ค. 59 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไทยกับเซี่ยงไฮ้
ต่อมาวันที่ 7-12 ธ.ค. 59 นายสมคิดยังเดินทางโรดโชว์ที่นครเซี่ยงไฮ้ เมืองหางโจว กรุงปักกิ่ง เมืองเสิ่นเจิ้น ของจีนและเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เพื่อจูงใจนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย พร้อมเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจไทย-จีน ครั้งที่ 5 "ไฮไลต์" คือ พบปะระหว่างนายสมคิดกับ "เจ้าพ่อ" ธุรกิจ E-commerce "แจ็ก หม่า" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป จำกัด ก่อนนายแจ็ก หม่า จะเดินทางมา "เช็กแฮนด์" กับ พล.อ.ประยุทธ์ บนตึกไทยคู่ฟ้า ในเวลาต่อมา
นอกจากการเดินทางเข้านอก-ออกแผ่นดินจีนหลายกรรมหลายวาระแล้ว "สมคิด" เดินสาย "โรดโชว์" มาแล้วกว่า 10 ประเทศ
ญี่ปุ่น วันที่ 25-28 พ.ย. 58 เป็นประเทศแรกที่นายสมคิดโรดโชว์ในนามรองนายกฯ
โดย "ยกทัพ" นักธุรกิจไทย กว่า 24 บริษัทอาทิ เครือ CP เครือไทยเบฟฯ เครือสหพัฒน์ นอกจากนี้ยังได้หารือกับ "ชินโสะ อาเบะ" นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและประชุมร่วมผู้บริหารระดับสูงทั้ง 2 ฝ่าย (HLJC)
วันที่ 31 ม.ค.-3 ก.พ. 2559 เดินทางเยือนประเทศโอมานและอิหร่าน เพื่อประตูการค้า-เชื่อมโยงกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (จีซีซี) 6 ประเทศ คือ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเป็นประตูการค้าไปสู่แอฟริกา
วันที่ 22-27 ก.พ. 59 นำรัฐมนตรีเศรษฐกิจ-ภาคเอกชนของไทยเดินทางไปรัสเซียและเบลารุส
วันที่ 9-12 มี.ค. 59 เดินทางไปศรีลังกาหารือความร่วมมือในเรื่องการทำประมงและอาหาร ต่อด้วย วันที่ 21-24 มี.ค. 59 เดินทางไปเกาหลีใต้ ชักชวนนักลงทุนเกาหลีและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่
วันที่ 31 พ.ค. 59 เดินทางไปญี่ปุ่นเป็นรอบที่ 2 เพิ่มเติม คือ การขึ้นกล่าว "โชว์วิชั่น" บนเวทีนิกเคอิ ฟอรั่ม ครั้งที่ 22 ในหัวข้อ "อนาคตของเอเชีย"
วันที่ 4-8 ต.ค. 59 นำคณะเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนีเพื่อพบปะบริษัทชั้นนำของทั้ง 2 ประเทศ และชักชวนให้เข้ามาลงทุนในไทย
วันที่ 2-5 ก.พ. 60 นำรัฐมนตรีเศรษฐกิจ-บริษัทชั้นนำของไทย เยือนสหภาพเมียนมาอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นหุ้นส่วนพัฒนาเมียนมาแบบ "ครบวงจร" และ "ตอกย้ำ" การพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจทวาย
ขณะที่ในวันที่ 23-25 พ.ค. 60 จะเดินทางไป สปป.ลาว และมีปฏิทินที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นอีกเป็นคำรบที่สาม เพื่อออกงาน 3 งาน 1.งานสัมมนาของเจโทร 2.งาน "นิกเคอิ ฟอรั่ม" และ 3 การประชุม HLJC ระหว่างวันที่ 4-8 มิ.ย. 60 ก่อนที่จะจัดคิวเดินทางไปฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนีเป็นคิวต่อไป
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ