นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายว่า กลุ่มผู้ประกอบการ ประกอบด้วย 4 บริษัท Global inter จำกัด บริษัท โหงวฮก กรุ๊ป จำกัด บริษัท นทลิน กรุ๊ป จำกัด และบริษัท ไชน่า เมอรร์ชานท์ กรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการขนส่งสินค้าของรัฐบาลจีน ได้เข้าพบและแสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ทั้งโครงการวงเงินลงทุน 1.41 แสนล้านบาท
แบ่งออกเป็น งานก่อสร้างวงเงิน 5.7 หมื่นล้านบาท และงานการบริหารจัดการ 8.4 หมื่นบ้านบาท โดยมีเงินพร้อมที่จะลงทุนเองทั้งหมด เพราะต้องการให้เฟส 3 เปิดให้บริการได้เร็วกว่าเป้าหมายของกระทรวงคมนาคมในปี 2568 เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เติบโตมากถึง 10% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5.8% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบริการยกขนตู้สินค้าเปลี่ยนลำ (ทราน ชิปเม้นท์) เติบโตมาก
เบื้องต้นได้ชี้แจงว่าตามแผนลงทุนเดิมรัฐบาลไทยจะลงทุนงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเอง เพราะถือว่าระบบคมนาคมเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคงทางด้านการขนส่งของประเทศซึ่งรัฐบาลจะมีความกังวลหากให้เอกชนเข้ามาลงทุน โดยจะเปิดให้เอกชนลงทุนเข้ามาลงทุนเฉพาะงานด้านการบริหารท่าเรือเท่านั้น
“เรารับข้อเสนอเอกชนที่จะให้มีการขยายบริการทราน ชิปเม้นท์ ให้มากขึ้น และเร่งเปิดเฟส 3 ให้เร็วขึ้น โดยจะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการงานขุดร่องน้ำ คาดว่าจะเร่งให้บริบริการให้ได้ช่วงกลางปี 2567 ซึ่งจะเร็วกว่าแผนเดิม 6 เดือนที่มีกำหนดเปิดในปี 2568 โดยคาดรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรืออีเอชไอเอ จะแล้วเสร็จ เดือนพ.ค. 2561”
นายมนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทบทวนทีโออาร์ เนื่องจากมีความต้องการให้ขยายความสามารถการรองรับตู้สินค้าผ่านทางรางมากขึ้นจากเดิม 1ล้านทีอียูเป็น 4 ล้านอีทียู ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าจะมีต้องมีการเพิ่มเติมงบลงทุนหรือไม่คาดว่า 2-3 เดือน ทีโออาร์จะแล้วเสร็จ คาดว่าจะเปิดประมูลได้กลางปี 2561 และได้ตัวผู้รับเหมางานโยธาเดือนธ.ค. 2561 หรือ อย่างช้าในเดือนม.ค. 2562 อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้ประกอบการจากหลายประเทศสนใจที่จะลงทุนแหลมฉบังเฟส 3 เช่น จากจีน 4-5 กลุ่ม, เกาหลี และญี่ปุ่น เป็นต้น
ที่มา ข่าวสดออนไลน์